โค้งรัชดา — นายพิชัย ธานีรณานนท์ ประธานคณะอนุกรรมการสาขาป้องกันอุบัติเหตุทางถนนและการเสียชีวิต วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) พร้อมนายธนันท์ชัย เมฆประเสริฐ ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนงาน สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ร่วมกับสำนักการโยธา และสำนักการจราจรและขนส่ง กทม.ลงพื้นที่ตรวจสอบวิเคราะห์ทางวิศวกรรม บริเวณถนนรัชดาภิเษก กรุงเพทมหานคร ตรงข้ามศาลอาญา หรือโค้ง 100 ศพ หลังเกิดอุบัติเหตุต่อเนื่องจนมีผู้เสียชีวิตถึง 5 รายช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ตามรายงานจากโปลิศนิวส์
ลุงพล ยืนยันบริสุทธิ์ใจ!คดี น้องชมพู่ พร้อมเรียกร้องตำรวจจับคนร้ายให้ได้
โดยพิชัย เปิดเผยว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุบริเวณเดียวกันนี้ ถึง 3 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 4 ราย วสท.จึงนำทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ลงพื้นที่ตรวจวิเคราะห์ทางวิศวกรรมบริเวณโค้งที่เกิดเหตุ ซึ่งลักษณะทางกายภาพของถนนรัชดาภิเษกเป็นถนนแปดเลน แบ่งเป็นฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกฝั่งละ 4 เลน ซึ่งช่วงโค้งถัดจากอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ผ่านซอยรัชดา 36 (ซอยเสือใหญ่อุทิศ) ถึง ซอยรัชดา 32 มีรัศมีโค้งกว้างมาก
รวมความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร พบว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเวลากลางคืนหรือในขณะฝนตกทำให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่เดิมอุบัติเหตุมักเกิดบนถนนฝั่งขาออก แต่หลังจากที่มีอุโมงค์ลอดแยกดังกล่าว ทำให้อุบัติเหตุไปเกิดที่ฝั่งขาเข้า เนื่องจากรถขับมาจากอุโมงค์ด้วยความเร็วโดยไม่มีกลไกชะลอความเร็วรถ จนทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถควบคุมรถได้
ประธานคณะอนุกรรมการสาขาป้องกันอุบัติเหตุฯ กล่าวอีกว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากทางโค้งรัชดาเป็นโค้งหลังหัก คือเป็นทางที่มีสองโค้งเชื่อมกลางด้วยทางตรงระยะสั้น ทำให้ผู้ขับขี่ไม่คิดว่าต้องปรับพวงมาลัย ขณะขับเข้าโค้ง ควรติดตั้งเครื่องหมายจราจรสะท้อนแสงนอกแนวขอบโค้งและติดป้ายบังคับความเร็วให้ผู้ขับขี่เห็นได้อย่างชัดเจน, ไม่มีการยกโค้ง ทำให้รถที่วิ่งเข้าสู่ทางโค้งด้วยความเร็วสูงกว่ากำหนดไม่สามารถควบคุมรถให้วิ่งตามแนวเส้นทางได้ ควรยกโค้งด้านนอกให้สูง
ผบ.ตร.สุวัฒน์ สั่งยกเลิก! ตำรวจตั้งด่าน เล็งติดกล้องวงจรปิด 5,000 ตัว
เพื่อให้บังคับล้อรถให้วิ่งเข้าโค้งได้อย่างปลอดภัย หรือปูผิวด้วยหินเล็ก เพื่อลดความเสี่ยงการเสียหลักหลุดโค้งออกไป และพื้นผิวจราจรในช่วงโค้งไม่เรียบ มีการสึกกร่อนของยางมะตอย เศษหินแตกออกมา ฝนตกจะมีหลุมน้ำขัง ทำให้รถที่วิ่งมาล้อแฉลบ ควรปรับผิวจราจรให้มีสภาพดีและเรียบตามมาตรฐาน นอกจากนี้ต้องประสานกับตำรวจเพื่อติดตั้งกล้องจับความเร็วให้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มค่าปรับให้ผู้ขับขี่เกิดความตระหนักและมีจิตสำนึกไม่ประมาท
หวั่น โควิด19 ระบาด! หมอยง เตือนไทย ฤดูฝนทุกปีจะพบโรคทางเดินหายใจ
ด้านนายธนันท์ชัย กล่าวว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีโค้งอันตรายอีกหลายจุดแถบชานเมือง ซึ่งได้พิจารณาการแก้ไขตามหลักการ อาทิ ต้องปรับปรุงลักษณะทางกายภาพของถนน แต่เนื่องจากถนนในเมืองมีข้อจำกัดในการยกพื้นสูง ต่างจากทางหลวง ทางเชื่อมเมือง และทางพิเศษ แต่อาจติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มเติม ทั้งนี้ข้อมูลด้านสถิติพบว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายนที่ผ่านมารวม 300 ครั้ง เหตุรุนแรงที่สุดช่วงเดือนสิงหาคม