เตรียมพร้อม! 9 สมาคมธุรกิจยกทีม ขอผ่อนคลายล็อกดาวน์ มาตรการให้สามารถประกอบธุรกิจในช่วงโควิด-19 ลุ้น! นั่งทานอาหารในร้าน 50% 1 ก.ย. นี้
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ทางด้านของตัวแทน 9 สมาคมธุรกิจยก ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจร้านอาหาร กลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ กลุ่มอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมคลินิกเอกชน สมาคมผู้ประกอบการสปาไทย กลุ่มสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย สมาคมสนามกอล์ฟไทย สมาคมวิชาชีพช่างทำผมไทย และสมาคมภัตตาคารไทย เข้าพบและขอหารือกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. พร้อมผู้บริหารระดับสูง เพื่อขอผ่อนคลายมาตราการ ให้สามารถประกอบธุรกิจภายใต้มาตรการควรคุมเชื้อโควิด-19
- นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. พร้อมรับฟังและหารือ เพื่อหาทางออกให้ทุกฝ่านได้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ในครั้งนี้
แนวทางการขอเปิดธุรกิจที่สมาคมศูนย์การค้าเสนอมาแบ่งเป็น 3 ระยะ
ระยะที่ 1 – วันที่ 1 กันยายน 2564 ได้แก่ เปิดธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มนั่งรับประทานที่ร้าน ร้อยละ 50 และเปิดธุรกิจก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน คลินิกทันตกรรม ร้านนวด สปาเฉพาะนวดเท้า คลินิกเวชกรรม ธุรกิจเสริมสวยงดเว้นบริเวณใบหน้า ธุรกิจไอทีอุปกรณ์สื่อสารและไฟฟ้า อาคารสำนักงาน ธุรกิจบริการ เช่น ล้างรถ ซ่อมกุญแจ ไปรษณีย์ เบ็ดเตล็ด เช่น ร้านตัดแว่น สนามกอล์ฟ และกีฬากลางแจ้ง
ระยะที่ 2 – วันที่ 15 กันยายน2564 ระยะที่ 2 เป็นการเปิดธุรกิจร้านอาหารแบบนั่งรับประทานที่ร้าน ร้อยละ 75 ธุรกิจเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และธุรกิจสถาบันการศึกษา
ระยะที่ 3 – วันที่ 30 กันยายน 2564 หรืออาจจะเร็วกว่ากำหนดก็ได้ ได้แก่ ธุรกิจร้านอาหารแบบนั่งรับประทานเต็มรูปแบบ 100% ธุรกิจประกอบการสุขภาพและสปา เครื่องเล่นเด็ก และผู้ใหญ่ ธุรกิจฟิตเนส และออกกำลำลังกายในร่ม ธุรกิจโรงภาพยนตร์ และห้องจัดเลี้ยง
จากรายงานพบว่าการหารือดังกล่าวกินเวลากว่า 3 ชม. โดยภายหลังการประชุม นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. แถลงสั้นๆ “สธ.ได้รับหลักการแล้ว และมอบหมายในกรมควบคุมโรคดำเนินการ พร้อมนำเข้าที่ประชุมศบค. ในวันที่ 27 สิงหาคม 2564 นี้ และมีแนวโน้มที่ว่า จำสามารถปลดล็อกให้สามารถนั่งทานอาหารในร้านได้ 50% รวมถึงสถานประกอบการกลางแจ้ง สถานออกกำลังกายต่างๆ อีกด้วย
และสธ.อยากจะให้มีมาตรการป้องกันการติดเชื้อ ให้องค์กร ผู้ประกอบการคัดกรองผู้ที่จะเข้าใช้บริการไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าต่างๆ ซึ่งเป็นมาตรการการป้องกันเชื้อในสถานที่แบบปิด หากเป็นสถานที่เปิด ซึ่งเป็นที่สามารถระบายอากาศได้ดี อาจจะสามารถผ่อนคลายได้มากกว่านี้
1.จัดสภาพแวดล้อมให้มีระยะห่าง ระบบระบายอากาศดี สถานที่สะอาดปลอดภัย
2.ในส่วนของบุคลากรจะต้องส่งเสริมให้มีการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน 2 เข็ม นอกจากนี้ ผู้ประกอบการจะต้องจัดให้มีการตรวจด้วยชุดตรวจเอทีเคเป็นระยะ
3.ขณะที่ในส่วนลูกค้าต้องปฏิบัติด้วยคือ ตรวจหรือแสดงตนว่าไม่ได้เป็นคนผู้ติดเชื้อ คือ ฉีดวัคซีน 2 เข็ม หรือมีการตรวจเอทีเค หรือผลตรวจอาร์ที-พีซีอาร์ (RT-PCR)
ข่าวที่น่าสนใจ