อัยการทั่วประเทศ ยื่นฟ้องคน ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้ว 4,138 คดี ผู้ต้องหากว่า 5 พันคน พบออกนอกเคหสถานเยอะที่สุด
วานนี้ 10 เม.ย. 63 นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงภาพรวมการดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินช่วงระหว่างวันที่ 3 – 9 เมษายน ว่า จากการรวบรวมคดีที่พนักงานอัยการทั่วประเทศ ได้ยื่นฟ้องผู้กระทำการฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในช่วง เวลาดังกล่าวพบว่ามีผู้ที่ถูกฟ้องคดีทั้งหมด 4,138 คดี จำนวนผู้ต้องหาทั้งหมด 5,264 ราย โดนข้อหาที่มีการฝ่าฝืนมากที่สุดคือการออกนอกเคหสถานในเวลาที่กฎหมายสั่งห้าม
ส่วนคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเกี่ยวกับการจับกุมบ่อนการพนันรายใหญ่ในจังหวัดนนทบุรี คดีนี้ อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงนนทบุรีได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลแขวงนนทบุรี เมื่อวานที่ผ่านมาโดยอัยการบรรยายฟ้องขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก ศาล สั่งจำคุกเจ้าบ้าน 6 เดือน 15 วัน ส่วนผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน สั่งจำคุก 3 เดือน 15 วันและ ผู้เล่นการพนัน ศาลสั่งให้กักขัง 15 วันปรับ 1,000 บาท โดยทุกคน ศาลไม่รอการลงโทษ
นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ได้ฝากข้อห่วงใย ผ่านสื่อมวลชน ว่า ที่สำนักงานอัยการสูงสุด และพนักงานอัยการจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายและมาตรการต่างๆอย่างเข้มงวดเพราะจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคอันจะเป็นการป้องกันให้กับทุกคน ครอบครัว สังคมและประเทศให้ปลอดภัยและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้รวดเร็วที่สุด
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยังกล่าวถึงกรณีที่กรุงเทพมหานครมีคำสั่งห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงวันที่ 10 -20 เมษายน ว่า หากพบว่ามีการฝ่าฝืน และมีการฟ้องคดีมายังชั้น พนักงานอัยการ แล้ว พนักงานอัยการสามารถ ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้บุคคลดังกล่าวหยุดประกอบอาชีพ ในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ ส่วนระยะเวลา ในการหยุดประกอบอาชีพนั้นจะนานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล