พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อนำเสนอข่าวกรณีเปิดแชทรุ่นพี่ ม.ดัง รับน้อง สั่งห้ามกลับบ้านทุกกรณี อ้างตนพี่เสียยังไม่กลับ!ซึ่งโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ว่า
จากกรณีดังกล่าวข้างต้นนั้น หากการจัดกิจกรรมมีการกระทำที่ส่งผลให้ได้รับความเสียหาย ต่อเสรีภาพ ร่างกาย ชีวิตหรือทรัพย์สิน ผู้เสียหายหรือผู้ปกครองสามารถเข้ามาพบพนักงานสอบสวนในทุกพื้นที่เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายได้
ตร. เตือนรุ่นพี่ รับน้องโหด เสี่ยงจำคุก 10 ปี ปรับ 2 แสน
ทั้งนี้การกระทำของรุ่นพี่หรือผู้ที่จัดกิจกรรมตามที่ปรากฏเป็นข่าวกรณีสั่งห้ามไม่ให้กลับบ้านและอาจส่งผลต่อการไม่ผ่านกิจกรรมของสถาบัน ก็คงต้องให้สถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร
โดยในเบื้องต้นการกระทำดังกล่าวนั้นก็อาจจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคามฯ มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า กิจกรรมการรับน้องในหลายสถาบันที่ผ่านมาจะจัดเพื่อแสดงถึงประเพณีหรือธรรมเนียมปฏิบัติของสถาบัน และจัดกิจกรรมที่เป็นไปในแนวสร้างสรรค์ เน้นถึงการรู้จักความมีอาวุโส ความรักความสามัคคีของหมู่คณะที่มีต่อสถาบัน
แต่ในบางครั้งก็อาจจะมีรุ่นพี่บางกลุ่มบางราย ที่จัดกิจกรรมไม่คำนึงถึงอันตรายต่อชีวิตร่างกาย จิตใจ ของผู้เข้าร่วมกิจกรรม และไม่ปรึกษาอาจารย์ฝ่ายปกครองหรืออาจารย์ที่รับผิดชอบ เพื่อช่วยกำกับดูแลถึงความเหมาะสมความปลอดภัยของผู้ร่วมกิจกรรม
ซึ่งหากทำไปโดยพละการไม่ว่าจะเป็นด้วยความคึกคะนองหรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วเกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียถึงขั้นชีวิต ตัวผู้กระทำเองก็จะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย เสียชื่อ เสียประวัติและอนาคต
ทั้งนี้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชันจินดา ผบ.ตร. ท่านมีความห่วงใยและได้กำชับในเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะที่ผ่านมามีความสูญเสียถึงแก่ชีวิตไปแล้วจำนวนหลายราย โดยขอฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องช่วยกำกับดูแลและเข้มงวดในการจัดกิจกรรมของนักเรียนนักศึกษา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดคิดขึ้น
ม.ศรีปทุม กำชับรุ่นพี่จัดกิจกรรมรับน้องสร้างสรรค์
รับน้องแม่โจ้ จบด้วยดี รุ่นพี่สารภาพผิด-มหาลัยเยียวยาเรียนฟรี 4 ปี