ครอบครัว เด็กหญิง ป.4 ถูกครูหลอกซื้อสกุชชี่ หวาดกลัวหลัง ถูก”เสธ เอ้”ข่มขู่ ดีเอสไอ ยืนยัน มีครชื่อ”เสธเอ้” เป็นคนของดีเอสไอจริง เตรียมสอบ
จากกรณี “คดีดราม่าสกุชชี่4แสน” ที่ “น้องไก่” นร.หญิงชั้น ป.4 ขโมยเงินพ่อแม่ไปซื้อของเล่นสุดฮิตกับ “ครูสาว” หลายต่อหลายครั้งจนหมดเงินไป กระทั่ง “เจ๊อ้อย” เจ้าของแผงมังคุดเจ้าใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นมารดาของ นร.หญิง จับได้ และทวงถามเรื่องราวไป ก่อนที่ครูสาวจะยอมรับ แต่บอกว่าขายตุ๊กตาสกุชชี่ให้เด็กไปแค่ 1 แสนบาทเท่านั้น และพร้อมจะคืนเงินให้ ไม่ได้ถึง 4 แสนตามที่โดนกล่าวหา สุดท้ายคู่กรณีตกลงกันไม่ได้ ต่อมา “เจ๊อ้อย” ได้เข้าแจ้งความก่อนปิดบ้านหนีไปชั่วคราว เหตุจากอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอส่งไลน์มาข่มขู่เพื่อเคลียร์ให้จบเรื่อง กระทั่งทางโรงเรียนต้นสังกัดได้ให้ครูสาวรายนี้ลาออกไปแล้ว
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช น.ส.น้ำฝน สร้อยจำปา อายุ 27 ปี พี่สาวของน้องไก่ ที่อ้างว่าถูกครูโรงเรียนเอกชน หลอกให้ซื้อของเล่นยอดฮิต “สกุชชี่” พร้อมด้วยตัวของน้องไก่ ญาติ และน.ส.มยุรี ศรีนวล ทนายความ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ “ครูปุ๋ย” อายุ 38 ปี ข้อหาฉ้อโกงโดยใช้กลอุบายหลอกหลวง เพื่อให้ได้มายังทรัพย์สิน โดยมี พ.ต.ท.เริงชัย ราชกิจจา รอง สว.(สอบสวน) สภ.พรหมคีรี รับเรื่องแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ หรือการเรียกตัวครุปุ๋ยมาสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมาย
น.ส.มยุรี กล่าวว่า ผู้เสียหายได้มอบหลักฐานทั้งในส่วนของครูปุ๋ย และในส่วนของ “เสธ.เอ” ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอให้กับตำรวจหมดแล้ว แต่ในส่วนข้อหาส่งไลน์ข่มขู่คุกคาม ทำให้เกิดความหวาดกลัวของ “เสธ.เอ้” นั้น ทางครอบครัวกำลังหารือกันอีกครั้งว่าจะแจ้งเอาผิดดีหรือไม่
งานเข้า “เสธ เอ้”สั่งสอบเจ้าหน้าที่ในสังกัดข่มขู่ล้มคดี
อธิบดีดีเอสไอ สั่งตรวจสอบบุคคลอ้างเป็น “เสธ เอ้” สังกัดดีเอสไอ ข่มขู่ ผู้ปกครองนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อถูกครูหลอกขายของสูญเงินไปกว่า 3 แสนบาท ด้านรองโฆษกรับแล้วอาจเป็นคนของดีเอสไอจริง
หลักฐานและคลิปเสียง และข้อความในแอพพลิเคชั่นไลน์ บทสนทนาระหว่างบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเสธ ประจำกรมสอบสวนคดีพิเศษ กับมารดาของนักเรียนประถมปีที่ 4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีการนำมาเผยแพร่ ผ่านเฟสบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ โดยอ้างว่า มีครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราชหลอกขายของที่ตัวเองขายให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นเงินกว่า 3 แสนบาท ก่อนที่ผู้ปกครองจะทราบ และได้พยายามติดตามทวงเงินดังกล่าวคืน กระทั่งครูรายนี้ยอมชดใช้เงินจนเหลืออีกกว่า 1 แสนบาท โดยตกลงจะนำเงินมาคืนให้ในวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายกลับบ่ายเบี่ยง แถมยังมีบุคคลรายหนึ่งซึ่งเป็นญาติของครู อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ส่งไลน์และโทรศัพท์มาข่มขู่ พยายามจะขอเคลียร์
ล่าสุดพันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ บอกว่า กำลังตรวจสอบว่าบุคคลที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรายนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัดจริงหรือไม่ พร้อมทั้งตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยว่าเป็นการเข้าไปดำเนินการส่วนตัวหรือไม่ อย่างไร ส่วนรายละเอียดนั้นยังไม่สามารถตอบได้ ต้องขอให้ทราบรายละเอียดทั้งหมดก่อน
ด้านพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ บอกว่า ตามที่มีบุคคลอ้างว่าชื่อ “เสธเอ้” นั้น ในสังกัดดีเอสไอปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ชื่อนี้จริง แต่อยู่ระหว่างเข้ารับการอบรมอยู่ข้างนอก ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงและหลักฐานต่อไปว่าบุคคลรายนี้จะมีพฤติการณ์ตามที่มีเผยแพร่อยู่ในโซลเชียลมีเดียในเวลานี้หรือไม่
รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ บอกด้วยว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รายนี้ให้เข้ามาปฏิบัติราชการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ แทนการปฏิบัติงานในหน้าที่เดิมแล้ว จนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ ส่วนผู้เสียหายขอให้ส่งข้อมูลรายละเอียดการถูกข่มขู่มาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษด้วยเพื่อดำเนินการต่อไป
ทีมข่าวไบรท์ทีวี พยายามตรวจสอบพบว่า ชื่อเจ้าหน้าที่ที่ถูกอ้างถึงครั้งนี้ มีตัวตนอยู่ในดีเอสไอจริง ปฏิบัติงานอยู่ในสังกัด ศูนย์สื่อสารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งทีมข่าวพยายามติดต่อเพื่อสอบถามแต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ โดยล่าสุดพบว่ามีการปิดเพจเฟสบุ๊คส่วนตัวที่เคยใช้งานไปด้วย
