ราคาทองคำ ในตลาดโลกปรับราคาเพิ่มขึ้น โดยราคาปรับสูงสุดถึง 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นการทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 ปี 8 เดือน นับตั้งแต่ปี 2554 ที่ราคาทองคำสูงขึ้นกว่า 1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สถานการณ์นี้ทำให้ราคาทองคำในประเทศไทย ราคาทองคำแท่งบาทละ 26,000 บาท ราคาทองคำรูปพรรณบาทละ 26,650 บาท
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ได้แถลงถึง ราคาทองคำที่ปรับเพิ่มขึ้นทำให้จูงใจนักลงทุน เพราะถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด เมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ในปีนี้ อีกทั้งผลตอบแทนทองคำในรูปของเงินบาทยังให้ผลตอบแทนมากถึง 20% ซึ่งถือว่าสูงกว่าทองคำในตลาดโลก ดังนั้นนักลงทุนจึงควรหันมาถือทองคำอย่างน้อย 5 – 10% ไว้ในพอร์ตการลงทุนเพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำที่น่าจับตามอง ดังนี้ 1. ความเสี่ยงจากการระบาดรอบ 2 ของโควิด-19 ที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่อง 2. การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารสหรัฐ (เฟด) ทั้งนโยบายการทำ QE แบบไม่จำกัดวงเงิน และการส่งสัญญาณดำเนินนโยบายดอกเบี้ยระดับต่ำที่ 0-0.25% ไปจนถึงปี 2565 3. สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน 4. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งชายแดนจีน-อินเดีย สหรัฐ-อิหร่าน คาบสมุทรเกาหลี รวมถึงประเด็นการเลือกตั้งสหรัฐ และ 5. กองทุนทองคำขนาดใหญ่ SPDR และธนาคารกลางต่างๆ ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น
โดยนางพวรรณ์ยังกล่าวอีกว่า ทั้ง 5 ปัจจัยนี้ถือว่าเป็นปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ นอกจากนี้ ในส่วนของปัจจัยเรื่องโควิด-19 หากสามารถควบคุมการระบาดได้อาจจะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเช่นกัน แต่ตราบใดที่นักลงทุนยังไม่มีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพท์ปลอดภัยจะยังคงเป็นตัวเลือกสำหรับนักลงทุนต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ราคาทองคำ ช่วงโควิดเริ่มนิ่ง ร้าน ปรับลดส่วนต่างเหลือ 100 บาท https://www.brighttv.co.th/news/social/gold-price-2