ศาลอาญาสั่งจำคุกตลอดชีวิต ผู้กำกับโจ้ และผู้ใต้บังคับบัญชา ปมใช้ถุงดำคลุมหัวเหยื่อคดียาเสพติด จนเสียชีวิต
ตามที่วันนี้ 8 มิ.ย.65 ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ กับพวก ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ก่อนที่ศาลจะพิพากษาสั่งประการชีวิต ผู้กำกับโจ้ และพวกอีก 6 คน ในฐานความผิด 4 ข้อหา ก่อนที่ศาลจะลดเหลือคุกตล ส่วนจำเลยที่ 6 จำคุก 5 ปี 4 เดือน
โดยความผิด 4 ข้อหา ผู้กำกับโจ้ และพวก มีดังนี้
1.เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
- ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น

ทั้งนี้ ผกก.โจ้ และผู้ใต้บังคับบัญชาถูกสั่งฟ้อง จากกรณี ตกเป็นจำเลยในคดีอาญาฐานก่อเหตุทำร้ายร่างกายโดยการทรมานนายจิระพงศ์ วัย 24 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ด้วยการใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะจนผู้ต้องหาเสียชีวิต
โดยกรณีคดีดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 5 ส.ค.64 ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้มีการจับกุมผู้ต้องหา สองสามีภรรยา พร้อมยาเสพติด 1 แสนเม็ด บนถนนสายเลี่ยงเมือง จ.นครสวรรค์ จากนั้นได้นำตัวมาที่ สภ.เมืองนครสวรรค์
ก่อนที่ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ ในช่วงเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ จะตกเป็นผู้ต้องหาในเรื่องที่ผู้ถูกกล่าวหาถูกร้องเรียนว่าได้ทําร้ายร่างกายโดยการทรมาน นายจิระพงศ์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เพื่อเรียกเงิน จํานวน 2 ล้านบาท จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต และถูกดําเนินคดีอาญา โดยกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ก่อนที่จากนั้นในช่วงเดือนสิงหาคม 64 ผู้กำกับโจ้ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา คดีดังกล่าว ได้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่แล้วหลังจากที่ทนแรงกดดันจากทางชุดไล่ล่า หลังหลบหนีไปกบดานในเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง ที่เมียวดี ประเทศเมียนมาร์ โดยหลบหนีออกทางเส้นทางธรรมชาติ

ขณะที่เพจบิ๊กเกรียน รายงานว่า ผู้กำกับโจ้ หลังจากมอบตัวได้ก้มกราบขอโทษ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ก่อนที่ ผบ.ตร. จะสั่งกำลังชุดใหญ่ ทั้งกองปราบ ปส.สมทบ ทีม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ล้างเครือข่ายแก๊งเทพบุตรถุงดำมีตำรวจ อีกหลายนาย มากกว่า 7 คน ที่ร่วมกันกระทำความผิด
ทั้งนี้ ผู้กำกับโจ้ ได้ชี้แจงและสารภาพถึงประเด็นต่างๆเกี่ยวกับคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นนี้ โดยสรุปได้ดังนี้
- ไม่มีใครเรียกเงิน 20 ล้านจากตนเพื่อเป็นการต่อรองใดๆ
- ไม่มีการเรียกเงินจากผู้ต้องหาแต่อย่างใด
- ข่มขู่ผู้ต้องหาเรียกเงิน 2 ล้าน เป็นเรื่องที่ถูกใส่ร้าย
-ทำไปเพราะต้องการจะถามหายาเสพติดซึ่งเป็นของกลางในคดีเท่านั้น - ไม่ได้ต้องการจะหลบหนี แค่ตกใจ จะไปตั้งหลักก่อนมอบตัว
- ไม่มีผู้มีอิทธิพลพาหลบหนีที่ชายแดน
- หลังจากเกิดเหตุเห็นข่าวจับกุมลูกน้องรู้สึกสงสารลูกน้องเลยตัดสินใจติดต่อนายตำรวจที่เคารพเพื่อขอมอบตัว
- ยอมรับรับว่าเห็นข่าวเครียดจนคิดอยากฆ่าตัวตายหนีปัญหา
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : https://www.brighttv.co.th/
Facebook : https://www.facebook.com/BrightTodayOfficial
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/101753