การบินไทย ประกาศให้พนักงานลาหยุด 1 ปี สามารถเรียนต่อ รักษาตัวได้ โดยไม่รับเงินเดือน พร้อมย้ำ ห้ามก่อความเสียหายแก่บริษัทฯ
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง ประธานเจ้าหน้าที่สายทรัพยากรบุคคล รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทฯ ได้ออกประกาศ เรื่องโครงการให้พนักงานลาหยุดโดยไม่รับเงินเดือนค่าจ้าง ระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 1 ปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 -30 มิถุนายน 2565 ตามมติที่ประชุมคณะผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทฯ
เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรให้แก่บริษัท รวมทั้งให้พนักงานบางกลุ่มที่มีปัญหาด้านสุขภาพสามารถเข้ารับการรักษาและดูแลสุขภาพได้ โดยไม่เป็นภาระต่อตัวพนักงานและบริษัทฯ,เพิ่มพูนความรู้ให้พนักงานและเกิดประโยชน์กับบริษัทฯ กรณีพนักงานลาไปศึกษาต่อ และให้พนักงานที่ต้องการลาติดตามคู่สมรส โดยพนักงานที่จะเข้าร่วมโครงการได้จะต้องเป็นพนักงานที่ผ่านการกลั่นกรองเข้าสู่โครงสร้างองค์กรปัจจุบันนับตั้งแต่วันที่ 1พฤษภาคม2564 และยังคงมีสภาพเป็นพนักงานของบริษัทฯ ณ วันที่พนักงานแจ้งความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ และเป็นพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยเท่านั้น
การลาหยุดโดยไม่รับเงินเดือนเป็นรูปแบบความสมัครใจร่วมกันระหว่างบริษัทฯ กับพนักงานที่ โดยโครงการมีระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1กรกฎาคม 2564 -30 มิถุนายน 2565 โดยบริษัทฯ จะพิจารณาอนุมัติตามดุลพินิจบริษัท โดยคำนึงถึงความเหมาะสม และผลกระทบหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ต่องาน เป็นสำคัญ
บริษัทฯ จะนับระยะเวลาการลาทั้งหมด เป็นเวลาในการปฏิบัติงาน ในการคำนวณอายุการทำงาน เพื่อให้สิทธิตามกฎหมายของพนักงาน โดยในระหว่างที่ลา บริษัทฯ และพนักงานที่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะไม่ส่งเงินสะสมและเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขณะที่พนักงานจะไม่ได้รับค่าจ้างและเงินใดๆ จากบริษัทฯ ตลอดระยะเวลาของการลา แต่ยังคงได้รับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์จากบริษัท
สำหรับกรณีที่พนักงานลาติดต่อกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป บริษัทฯ จะจ่ายเงินช่วยเหลือจำนวน 1,650 บาทต่อเดือนให้แก่พนักงาน (ก่อนหักภาษี) เพื่อช่วยเหลือพนักงานให้ยังมีการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมอยู่ เพื่อที่พนักงานจะได้คงสิทธิในการได้รับผลประโยชน์ทดแทนต่าง ๆ จากกองทุนประกันสังคมในระหว่างระยะเวลาการลานี้ เท่านั้น
นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลาการลา ห้ามพนักงานดำเนินกิจการส่วนตัวหรือร่วมกิจการในห้างหุ้นส่วน ร้านค้าบริษัท องค์กร หรือบุคคลใด ๆ ซึ่งขัดต่อผลประโยชน์ หรืออาจก่อไห้เกิดความเสียหายแก่บริษัทฯ รวมทั้งไม่ดำรงตำแหน่งใด ๆ ในส่วนราชการหรือในทางการเมือง เว้นแต่ได้รับความยินยอม และต้องรักษาวินัยและปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของบริษัท ไม่กระทำการใด ๆ อันอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียชื่อเสียงของบริษัทฯ
ข่าวที่น่าสนใจ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขอโทษคนไทย ฐานฝ่าฝืนมาตรการกักตัว 14 วัน หลังเดินทางกลับจากแข่งบอลโลก
ลุงใจโหด! ใช้ฉมวกแทงสุนัขปางตาย อ้างโมโหที่หมาเข้าไปทำลายแปลงผัก
ผลศึกษาอังกฤษชี้ ฉีดวัคซีน แอสตราเซเนกา ตามด้วยไฟเซอร์ สร้างภูมิคุ้มกันโควิด19สูง