เยียวยาเกษตรกร วันนี้ ธ.ก.ส. โอนเงินเยียวยา งวดที่ 2 ให้เกษตรกรแล้ว 999,984 ราย คาดดำเนินการเสร็จสิ้นวันที่ 21 มิ.ย. 63 สำหรับงวดที่ 1
เยียวยาเกษตรกร / ความคืบหน้ามาตรการเยียวยาเกษตรกร ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทยอยโอนเงินเยียวยารายละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2563 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2563
ล่าสุด นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า วันนี้ ธ.ก.ส.โอนเงินเยียวยางวดที่ 2 ให้เกษตรกร 999,984 ราย รวมผลการโอนเงิน 2 วัน จำนวน 1,999,968 ราย เป็นเงิน 9,999.84 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นวันที่ 21 มิถุนายน สำหรับผลการจ่ายเงินเยียวยางวดที่ 1 ของเดือนพฤษภาคม จ่ายแล้ว 7,235,675 ราย รวมทั้งสิ้น 36,178,38 ล้านบาท
ล่าสุดกำลังเร่งตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีธนาคารซึ่งเกษตรกรแจ้งข้อมูลเข้ามาเพิ่ม 65,221 ราย หากได้รับคำยืนยันจากธนาคารต่าง ๆ แล้ว ธ.ก.ส.จะโอนให้ทันที ส่วนที่ยังไม่สามารถโอนได้มี 158,905 ราย เนื่องจากเกษตรกรผู้ได้รับสิทธิ์ยังไม่แจ้งเลขบัญชี จึงขอให้เกษตรกรแจ้งหมายเลขบัญชีผ่าน www.เยียวยาเกษตรกร.com โดยเป็นบัญชีธนาคารใดก็ได้ รวมทั้งพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
สำหรับรายชื่อที่ส่งคืนกระทรวงเกษตรฯ 222,331 ราย แบ่งเป็นข้าราชการ 91,426 ราย ที่เหลือ 132,905 ราย เป็นกลุ่มที่กระทรวงเกษตรฯ ต้องตรวจสอบสถานะทางทะเบียนราษฎร์ เนื่องจากก่อนโอนเงินเข้าบัญชี ทาง ธ.ก.ส.ได้ตรวจสอบข้อมูลกับกระทรวงมหาดไทยพบว่า มีทั้งผู้เสียชีวิตและอยู่ในสถานะถูกจำหน่าย
“มาตรการคืนสิทธิ์หรือสละสิทธิ์เงินเยียวยาเกษตรกรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ได้หารือแนวทางดำเนินการร่วมกัน โดยให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์และประสงค์สละสิทธิ์ไปแจ้งที่หน่วยงานขึ้นทะเบียนเกษตรกรระดับภูมิภาคใกล้บ้าน หน่วยงานรับคําร้องจะบันทึกคําร้องตามแบบฟอร์มเข้าระบบ หรือดาวน์โหลดเอกสารได้จาก www.moac.go.th จากนั้นสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) จะรวบรวมส่งรายชื่อเกษตรกรผู้ยื่นขอคืนสิทธิ์ทั้งหมดให้ ธ.ก.ส. เพื่อเรียกคืนเงินผ่านบัญชี ธ.ก.ส. ต่อไป ส่วนผู้ใช้บัญชีธนาคารอื่นสามารถนำเงินไปคืนที่เคาน์เตอร์ธนาคาร ธ.ก.ส.ทุกสาขา สำหรับผลการรับแจ้งการสละสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2563 เป็นต้นมา ยังไม่มีผู้ประสงค์มาแจ้งสละสิทธิ์แต่อย่างใด” นายกษาปณ์ กล่าว