ฝืมือคนไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก ปรบมือให้กับ นักวิจัยไทยพัฒนา “วัคซีนโควิดแบบพ่นจมูก” 2 ชนิด เริ่มยืนเอกสารขอทดลองในมนุษย์
ถึงแม้ว่าในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย รัฐบาลไทยได้นำเข้าวัคซีนโควิด-19 เพื่อจัดสรรให้กับประชาชนในประเทศ รวมถึงได้รับการบริจาควัคซีนจากหลายประเทศ เพื่อเป็นแนวทางการสร้างภูมิคุ้นกันหมู่ ทั้งนี้ประเทศไทยยังได้ทำการคิดค้นและพัฒนาวัคซีนคนของไทยหลายตัว ที่มีความคืบหน้าไปมากแล้ว อาทิเช่น วัคซีนChulaCov19 ซึ่งขณะนี้เข้าขั้นตอนการทดลองในมนุษย์แล้ว แต่คนไทยยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง เมื่อนักวิจัยไทยพัฒนา “วัคซีนโควิดแบบพ่นจมูก” 2 ชนิด ผ่านการทดลองในสัตว์ และเริ่มยืนเอกสารขอทดลองในมนุษย์แล้ว
ล่าสุด ทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) พัฒนาวัคซีนโควิด-19 แบบพ่นจมูก 2 ชนิด คือ Adenovirus-based และ Influenza-based ซึ่งผ่านการทดลองในหนูทดลองเรียบร้อยแล้ว พบว่ามีประสิทธิภาพคุ้มกันโรค ทั้งนี้ผลักดันให้สามารถทดลองในมนุษย์ต่อไป
วัคซีนโควิดพ่นจมูก ชนิด Adenovirus
- เป็นการออกแบบวัคซีนที่พ่นเข้าจมูกผ่านละลองฝอย
- ผ่านการทดสอบในหนูทดลองเป็นที่เรียบร้อบ ผลคือ หนูทดลองไม่มีอาหารป่วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักขึ้นสูงกว่ากลุ่มที่ฉีดเข้ากล้ามอย่างเห็นได้ชัด
- ทำการทดสอบด้านความปลอดภัย ไม่มีปัญหา
- กำลังเดินหน้าทดลองกับมนุษย์อาสา
- เร่งรวบรวมข้อมูลเพื่อการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ
วัคซีนโควิดพ่นจมูก ชนิด Influenza virus
- วัคซีนตัวนี้ร่วมมือกับทีมองค์การเภสัชกรรม
- ตอนนี้ได้ทำการทดลองในหนูทดลองเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งผลการวิจัยเรื่องระดับภูมิคุ้มกันในหนูทดลองได้ตีพิมพ์ไปแล้ว
- การทดลองวัคซีนในหนูทดลองโดยการพ่นเข้าจมูกผ่านละอองฝอย และ ฉีดเข้ากล้าม
- ผลจากการทดลองในหนูทดลอง สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งในรูปแบบแอนติบอดี และ T cell ได้สูง
- หลังจากการทดลองในสัตว์ได้ผลดี ไม่พบพบข้างเคียง ขั้นต่อไปคือการยื่นเอกสารกับทางอย. เพื่อขอทดลองในมนุษย์ ร่วมกับ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
- วางแผนทดสอบประสิทธิภาพวัคซีนกับเชื้อสายพันธุ์เดลตา
- หาก อย. อนุมัติเร็ว เริ่มทดลองในมนุษย์เฟสแรก ปลายปีนี้ และเฟส 2 ในเดือนมีนาคมปีหน้า (2565)
- หากได้ผลดี สามารถผลิตวัคซีนใช้ในกลางปี 2565
สามารถติดตามข่าวสาร และ อัปเดทสถานการ์โควิด-19 ได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV
ข่าวที่น่าสนใจ