กรมอุทยานแห่งชาติฯ เดินสายจัดเวทีสัญจร ชี้แจงเจตนารมณ์พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ (ฉบับใหม่)

กรมอุทยานแห่งชาติฯ ชี้ เจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ (ฉบับใหม่) เน้นการอยู่ร่วมกันของคนกับป่า ภายใต้แนวคิด ป่าอยู่ได้ คนอยู่ได้ พร้อมเดินสายจัดเวทีสัญจรทั่วประเทศ

9 เม.ย. 64 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมสัญจร ภายใต้โครงการการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่สำคัญเพื่อการศึกษาเกี่ยวกับกฎหมาย ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยมี นายทศพร รักจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมคณะผู้บริหาร และตัวแทนประชาชนในพื้นที่
ร่วมเสวนา ณ โรงเรียนบ้านห้วยหินดำ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี

นายทศพร รักจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ภายหลัง พ.ร.บ.กรมอุทยานแห่งชาติ (ฉบับใหม่) และพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับใหม่) ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้กับเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และได้ประกาศบังคับใช้ไปเมื่อปลายปี พ.ศ.2562 ดังนั้น เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจต่อสาระสำคัญเกี่ยวกับพระราชบัญญัติกฎหมาย ฉบับใหม่ให้กับประชาชนทั่วไป รวมไปถึงชุมชนที่อาศัยอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ จึงได้จัดเวทีเสวนาสัญจร ภายใต้โครงการ การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่สำคัญเพื่อการศึกษาเกี่ยวกับกฎหมาย ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้ว ใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เลย และ พังงา

ผอ.ส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ฯ กล่าวอีกว่า ในการเสวนาครั้งนี้ยังคงเน้นสาระสำคัญของพระราชบัญญัติกฎหมายใหม่เช่นเดิม โดยเฉพาะมาตรา 64 ซึ่งกำหนดให้มีการสำรวจการถือครองที่ดินของประชาชนที่อยู่อาศัยหรือทำกินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ก่อนพ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ เพื่อนำไปสู่การจัดทำโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยชุมชนที่อาศัยในพื้นที่อุทยานฯ จะไม่มีสิทธิในที่ดินนั้น หากแต่สามารถอยู่อาศัยทำกินได้ตามกรอบที่กฎหมายกำหนด ซึ่งกฎหมายฉบับใหม่นี้ จะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการบุกรุกครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ

ทั้งนี้ การช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตป่าแต่เดิมนั้น จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข การอยู่อาศัยหรือทำกิน รวมถึงการสิ้นสุดการอนุญาต ซึ่งจะอยู่ภายใต้มาตรการในการกำกับดูแล การติดตาม และการประเมินผลว่าต้องไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ หรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยจะเป็นการให้สิทธิ์ในที่ทำกินไม่ใช่การให้เอกสารสิทธิ์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกกฎหมายลำดับรอง ในการกำหนด หลักเกณฑ์และเงื่อนไข การอยู่อาศัยและทำกิน รวมถึงกรณีของชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมที่อาศัยอยู่แล้วในอุทยานแห่งชาติ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาให้เหมาะสมกับลักษณะพื้นที่ และวิถีชีวิตของชุมชนดั้งเดิมและกลุ่มชาติพันธุ์ อาทิ ชาวเล ชาวกะเหรี่ยง เป็นต้น

นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ (มาตรา 65) ยังเปิดให้ชาวบ้านสามารถเก็บหาของป่าหรือหากินในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ได้ โดยอยู่ภายใต้กรอบที่กำหนด เช่น เป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาต เก็บตามชนิด ตามประเภทที่ให้เก็บ เก็บในบริเวณที่ให้เก็บ เก็บในระยะเวลาที่ให้เก็บ เก็บเพื่อดำรงชีพอย่างปกติ ซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและเป็นข้อผ่อนปรนที่ทำให้คนสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างสมดุล ขณะ เดียวกัน พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ได้เพิ่มบทลงโทษให้มากขึ้น เพื่อที่ประชาชนจะไม่กล้าฝ่าฝืนกฎหมาย อาทิ ผู้ใดยึดถือหรือครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000 -2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นต้น

ในส่วน พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับใหม่) มีการเพิ่มบทลงโทษที่แรงขึ้นเช่นกัน โดยบทลงโทษที่รุนแรงนี้จะช่วยควบคุมป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเกี่ยวกับสัตว์ป่าได้ดียิ่งขึ้น อาทิ บทบัญญัติ มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวน หรือ สัตว์ป่าคุ้มครอง หากสัตว์ชนิดนั้นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากสัตว์ชนิดนั้นเป็นสัตว์ป่าสงวน จะมีโทษปรับขึ้นไปอีก คือ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงหนึ่งล้านห้าแสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ เป็นต้น

นายทศพร กล่าวด้วยว่า อีกหนึ่งเรื่องที่ได้เพิ่มเติมเข้ามาในกฎหมายฉบับปรับปรุงใหม่ คือ การจัดสรรรายได้ของอุทยานแห่งชาติส่วนหนึ่งจะใช้เพื่อการส่งเสริมการปฏิบัติงานและการพัฒนาพื้นที่ชุมชนรอบอุทยานแห่งชาตินั้นๆ โดยรายได้ที่จัดเก็บก็เพื่อประโยชน์ในการรักษาสภาพความปลอดภัย ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย การให้บริการ และการอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ ในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ นอกจากนี้ ข้อบัญญัติใน พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ (ฉบับใหม่) จะช่วยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ หรืออาสาสมัคร ได้รับสวัสดิการเพิ่มมากขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตของเจ้าหน้าที่ได้รับการดูแลช่วยเหลือในทุก ๆ ด้าน เช่น การเยียวยา หากเกิดการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ หรือแม้แต่การสนับสนุนเงินเพื่อการสู้คดี หากมีการฟ้องร้องจากคู่กรณี ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมีขวัญและกำลังใจที่ดีในการทำงานอนุรักษ์ผืนป่าของเมืองไทยต่อไป

“กฎหมายเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญของการปกป้องผืนป่า สัตว์ป่า รวมไปถึงทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ คือ การที่คนไทยทุกคนได้เรียนรู้ว่า ป่านั้นสำคัญกับทุกคนมากแค่ไหน เมื่อเข้าใจเราก็จะรู้คุณค่าของป่าและจะไม่ทำลายมัน รวมทั้งจะช่วยกันดูแลเป็นหูเป็นตา คอยสอดส่องแจ้งเบาะแสการกระทำผิดให้เจ้าหน้าที่ทราบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” นายทศพร กล่าวในตอนท้าย

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ด่วน! ไฟไหม้รถยนต์ เพลิงลามเข้าอาคาร ย่านซอยร่มเกล้า 58

อากาศร้อนเป็นเหตุ!? ไฟลุกไหม้รถยนต์ ลามเข้าตัวอาคาร ย่านร่มเกล้า 58 คาดระบบทำความเย็นของรถระเบิด เบื้องต้น ส่งตัวผู้ประสบภัยไปรักษาที่ รพ.

อีฟ แฟนเก่า ทอล ปาแชทหลักฐาน หลังเจอกระแสตีกลับ ลั่น จะโพสต์เป็นครั้งสุดท้าย!

อีฟ แฟนเก่า ทอล เกียรติศักดิ์ ออกมาปาแชทหลักฐานกลางโซเชียล หลังเจอกระแสตีกลับ ลั่น จะโพสต์เป็นครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย!

ใครจ้างมาหนอ? ‘เสือดุสิต’ ถูกมือมืด บุกถล่มบ้าน ปาขวดโซดาใส่ กลางดึก

บุกเหยียบถิ่น ‘เสือดุสิต’ ถูกถล่มบ้าน ปาขวดโซดาใส่กลางดึก หลักฐานชัด! คาดคนร้ายถูกใครจ้างมาอีกที เพราะมีถ่ายส่งงาน

ล่าตัว ‘แก๊งพระล่าสัตว์’ อึ้ง! รองเจ้าคณะจังหวัดก็ร่วมด้วย ยังลอยนวลอีก 7

รองเจ้าคณะจังหวัด ก็เอากับเขาด้วย! แก๊งพระสงฆ์-ฆราวาส ล่าสัตว์ป่า ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จับได้ 2 ราย หนีไปได้อีก 7

ฤกษ์งามยามดี! ธัญญ่า-อาโล่ ควงคู่จดทะเบียนสมรสแล้ว

ธัญญ่า อาร์ยาม-อาโล่ เวียงแก้ว ควงคู่จดทะเบียนสมรสแล้ว! งานนี้ด้านแฟนๆ แห่แสดงความยินดีกันอย่างมากมาย

กุ๊บกิ๊บ-บี้ ประกาศตามหาหลานชาย หลังติดต่อไม่ได้นาน 2 วัน วอนช่วยเป็นหูเป็นตา

กุ๊บกิ๊บ-บี้ โพสต์ประกาศตามหาหลานชาย น้องติวเตอร์ หลังติดต่อไม่ได้นานถึง 2 วัน พร้อมแจ้งเบาะแสเพิ่มเติม วอนโซเชียลช่วยเป็นหูเป็นตา
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า