พระฟอกเงิน จากกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2563 ศาลอุทธรณ์แก้ยกฟ้อง นายเอื้อน กลิ่นสาลี อดีตพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา, กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กับนายสมทรง อรรถกฤษณ์ อดีตพระอรรถกิจโสภณ และเลขาเจ้าคณะกรุงเทพ เป็นจำเลยที่ 1-2 ไม่ผิดฟอกเงิน 5 ล้าน
วีระ สมความคิด เตรียมร้อง DSI จี้สอบที่ดิน ศรีพันวา ชี้มีหลายประเด็นต้องตรวจสอบ
โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เรื่องการขออนุมัติงบศึกษาพระปริยัติธรรมนั้น หาใช่เฉพาะวัดที่มีโรงเรียนศึกษาพระปริยัติธรรม แต่วัดสามพระยามีโรงเรียนสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ย่อมมีสิทธิ์ในการใช้งบดังกล่าว จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลภายนอกไม่เกี่ยวกับสำนักงาน พศ. ไม่มีหลักฐานว่าจำเลยทราบว่าเงินเกี่ยวกับการกระทำความผิด
ในหนังสือระบุได้รับเงินเกี่ยวกับการบูรณะปฏิสังขรณ์ แสดงว่าจำเลยที่ 1 เข้าใจว่าเป็นงบบูรณะปฏิสังขรณ์ เมื่อได้รับงบ 5 ล้านบาทตามเช็คแล้ว จำเลยได้มอบอำนาจให้มีการถอนเงินจ่ายค่าก่อสร้างอาคารร่มธรรม วัดมีการก่อสร้างอาคารและโอนเงินชำระหนี้จริง โดยจำเลยจ่ายเงินให้ผู้ดูแลการก่อสร้าง เชื่อได้ว่าจำเลยในฐานะผู้ดูแลวัดได้นำเงินไปทำนุบำรุงวัด
ด่วน!ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ ให้ ปารีณา-ศรีนวล ยังไม่สิ้นสมาชิกภาพส.ส.
แม้วัดสามพระยาไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม และไม่ได้นำเงินไปใช้โดยตรง ก็ไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนทรัพย์สินที่เป็นการกระทำความผิดมูลฐานฟอกเงิน ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น จำเลยทั้งสองไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ พิพากษาแก้เป็นยกฟ้อง
ศรีสุวรรณ จี้เลขาธิการ กกต.ทบทวนปม 31 พรรคกู้เงิน
ขณะที่ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระชื่อดังบนโลกออนไลน์ ต้องไม่ใช่แค่เรื่องของการยกฟ้องแล้วให้จบกันไปอย่างนี้นะ ต้องไม่ใช่เรื่องของการบอกว่า “มันเป็นคราวเคราะห์หรือกรรมเก่าของจำเลยเอง” อีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่เราควรจะต้องทำอะไรให้เป็นมาตรฐานกันเสีย ถึงเวลาที่จะต้องมาแก้ไขปรับปรุงในกฎระเบียบที่ไม่เป็นธรรม ที่ขัดต่อหลักของสิทธิและเสรีภาพ พระก็พลเมือง ควรได้รับการปฎิบัติในทางกฎหมายอย่างเท่าเทียมเสมอเหมือนกับผู้อื่น
ต่อกรณีนี้ ถึงในที่สุด ถ้าศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องอีก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรต้องออกมาทำอะไรเพื่อแสดงถึงการขอขมากรรมและการสำนึกผิดในสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไปด้วย
อาตมาอยากจะเสนอหรือจะบอกว่าเรียกร้องก็ได้ในเรื่องที่เป็นแนวทางซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติสามารถทำได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แนวทางที่อาตมากล่าวถึงมีอยู่ ๓ ข้อ นั่นก็คือ
๑. หากศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องตามศาลอุทธรณ์ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เสนอความเห็นให้มหาเถรสมาคมพิจารณาชำระอธิกรณ์ตลอดจนถึงคืนสมณเพศให้กับพระพรหมดิลก ในฐานะที่ท่านมิได้เป็นผู้มีมลทินมัวหมอง
๒. ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ประกาศยืนยันถึงความบริสุทธิ์ ตลอดจนถึงประกอบพิธีขอขมากรรมต่อพระเถระที่ถูกกล่าวหาให้เป็นผู้ต้องมลทิน
๓. ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เสนอไปยังรัฐบาลเพื่อให้พิจารณาคืนสมณศักดิ์ให้กับพระเถระเหล่านั้นด้วย
นี่เป็นสิ่งที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติควรกระทำนะ และอาตมาก็หวังว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะทำด้วย
ทำเพราะเห็นแก่ความเป็นธรรม ทำเพราะเห็นแก่ความยุติธรรม อย่าให้สังคมไทยเวียนวนอยู่แบบนี้อีกเลย อย่าให้ในอนาคตมีพระที่ต้องมีชะตากรรมอย่าง พระพิมลธรรม หรือพระพรหมดิลกอีกเลย