วัคซีนไฟเซอร์ — วันนี้ (30 ก.ค.) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคได้เปิดเผย ระหว่างแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ประจำวัน โดยระบุว่า ไทยได้รับวัคซีนโควิดยี่ห้อไฟเซอร์ จำนวนประมาณ 1.5 ล้านโดส ซึ่งเป็นการบริจาคจากสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ไทม์ไลน์ก่อนการกระจายฉีด วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส มีดังนี้
30 ก.ค. 64 วัคซีนล็อตบริจาค 1.5 ล้านโดสถึงประเทศไทย จัดเก็บที่คลังวัคซีน ที่ -70 องศาเซลเซียส บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ส่งตัวอย่างตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยที่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
2 ส.ค. 64 ได้รับผลตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย
3-4 ส.ค. 64 บริษัทจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ แพ็ควัคซีนเพื่อจัดส่ง
5-6 ส.ค. 64 จัดส่งวัคซีนล็อตแรก เป็นเข็มกระตุ้นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และเข็ม 1 สำหรับกลุ่มเสี่ยงเป้าหมาย ถึงหน่วยบริการ
7-8 ส.ค. 64 โรงพยาบาลเตรียมความพร้อมการฉีดวัคซีน
9 ส.ค. 64 หน่วยบริการเริ่มฉีดวัคซีน
กลางเดือน ส.ค. 64 จัดส่งวัคซีนเข็ม 2 สำหรับฉีดปลายเดือน ส.ค. 64
สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ มีดังต่อไปนี้
-บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข ที่ดูแลผู้ป่วยโควิด19 ทั่วประเทศ ฉีดเป็นเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน 700,000 โดส
-ผู้สูงอายุ, ผู้อยู่ในกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป และคนท้องที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ในพื้นที่ 13 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 645,000 โดส
-ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ, 7 โรคเรื้อรัง และคนท้องที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป รวมถึงคนไทย ผู้จะเดินทางไปต่างประเทศ ที่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เช่น นักเรียน นักศึกษา เป็นต้น 150,000 โดส
-ทำการศึกษาวิจัย (โดยการอนุมัติของคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม) 5,000 โดส
-สำรองไว้เพื่อตอบโต้การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ 40,000 โดส
ทั้งนี้ วัคซีนไฟเซอร์ 1 ขวด จะสามารถผสมน้ำเกลือ 0.9%ได้ 2.25 มล. และจะฉีดได้ 6 โดส ฉีดโดสละ 0.3 มล. เข้ากล้ามเนื้อ ระยะห่างระหว่างเข็มแรกและเข็มสอง อยู่ที่ 3 สัปดาห์ และสามารถฉีดได้ในผู้ที่มีอายุ 12 ปี ขึ้นไป ต้องจัดเก็บจะต้องเก็บในอุณหภูมิ -90 ถึง -60 องศาเซลเซียสได้ 6 เดือน และเก็บในอุณหภูมิ 2 ถึง 8 องศาเซลเซียส ได้ 1 เดือน