ตีกันในโรงพยาบาล พลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาที่ สถานีตำรวจภูธรสำโรงใต้ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 เวลา 16.00 น. เพื่อร่วมประชุมกับชุดพนักงานสอบสวน และฝ่ายสืบสวนของ ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และสถานีตำรวจภูธรสำโรงใต้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดี กรณีเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกัน ในโรงพยาบาล และมีการทำร้ายร่างกายบุคลากรทางการแพทย์ นั้น
วงจรปิดแฉยับ! กั๊ก มิน อันธพาล ต่อยหมอ ชกบุรุษพยาบาล ย้อนแย้งคำสารภาพ
พลตำรวจโท ปิยะฯ กล่าวภายหลังการประชุมติดตามการดำเนินคดีว่า สำหรับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ตำรวจได้แยกการดำเนินการออกเป็น 3 คดีด้วยกัน คือ
1.คดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย โดยใช้อาวุธมีด เหตุเกิดที่ ซอยโรงเหล็ก ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จว.สมุทรปราการ มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว
2.คดีทำร้ายร่างกายแพทย์ รพ.วิภาราม-ชัยปราการ ผู้บาดเจ็บประกอบด้วย แพทย์ 1 คน และบุคลากรทางการแพทย์ 2 คน คดีนี้มีผู้ต้องหาจำนวนทั้งสิ้น 9 ราย
3.คดีทำร้ายร่างกาย รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้า โดยคดีนี้มีผู้ต้องหาจำนวนทั้งสิ้น 17 ราย
ในการสืบสวนสอบสวนขณะนี้สามารถติดตามตัวผู้ต้องหาได้เกือบครบแล้ว คาดว่าใช้เวลา ไม่นานจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด
ซึ่ง พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับลงมาว่า ให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกรายอย่างเฉียบขาด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง รวมทั้งให้มีการติดตามพฤติกรรมของทั้งสองกลุ่ม เน้นทำความเข้าใจ และต้องไม่มีเหตุทะเลาะวิวาทหรือกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นอีก
สำหรับในส่วนของคดี ขณะนี้ได้เชิญพยานและผู้เสียหายทั้งหมด เข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทั้งแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนที่เกี่ยวข้องและอยู่ในเหตุการณ์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมดในทุกข้อหา คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายฯ ร่วมกันบุกรุก ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
ยาบ้าแลกสว่านไฟฟ้า! ชนวนเหตุวัยรุ่น ตีกันในโรงพยาบาล
หญิงบนรถมีปากเสียงตร.จราจร ก่อนใช้ ขวดน้ำฟาดตำรวจ
“ขอยืนยันว่า ความรุนแรงดังกล่าว เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ซึ่งตำรวจจะดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด ขอให้ทุกคนตระหนักว่า ห้องฉุกเฉิน และสถานพยาบาล เป็นสถานที่รักษาผู้ป่วย ในภาวะวิกฤติที่ต้องรักษาชีวิต ซึ่งทุกคนต้องให้ความเคารพ หากฝ่าฝืนต้องได้รับโทษสูงสุด”
โดยภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม พลตำรวจโท ปิยะฯ ได้เป็นผู้แทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปพบ ผู้บริหาร และบุคลากรทางการแพทย์ ณ รพ.วิภาราม-ชัยปราการ และ รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้า โดยพลตำรวจโท ปิยะฯ ได้กล่าวต่อบุคลากรทางการแพทย์ว่า “ตำรวจขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่า ตำรวจจะหารือกับบุคลากรทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก”