เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ โฆษกกรม สรรพากร เปิดเผยว่าร่างพระราชบัญญัติ ภาษีแพลตฟอร์มดิจิตอลต่างชาติ หรือ พ.ร.บ.ภาษี e-Service ที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบไปแล้ว เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องนำเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร หากเห็นชอบก็จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป และหลังจากนั้น 6 เดือน จึงจะเริ่มจัดเก็บได้ ดังนั้นคาดว่าจะเริ่มจัดเก็บภาษีดังกล่าวได้ในปีภาษี 2564
ทั้งนี้ เป้าหมายการจัดเก็บภาษี e-Service ปีแรกซึ่งหากดูฐานจากปี 2562 คาดว่าจะได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท แต่จากการระบาดของโควิด-19 จะเห็นว่าคนใช้ออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ก็คาดว่าจะจัดเก็บได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเกิดความเป็นธรรมสำหรับผู้ให้บริการในประเทศไทยที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เพราะในแต่ละปีผู้ให้บริการต่างประเทศได้รายรับปีละ 40,000 กว่าล้านบาท แต่ไม่เคยเสียภาษี โดยยืนยันว่าผู้ให้บริการรายใหญ่ ๆ ก็พร้อมที่จะเสียภาษีดังกล่าวแล้ว
นางสมหมาย กล่าวอีกว่า สำหรับภาษี e-Service ผู้ให้บริการต่างประเทศ ทั้งแพลตฟอร์มดูหนัง เล่นเกมส์ นายหน้า สื่อโฆษณา ตลาดกลางที่จับผู้ซื้อและผู้ขายมาเจอกัน รวมถึงบริการอีคอมเมิร์ซ เช่น Facebook, YouTube, Google, Line, Netflix, Lazada ที่มีรายรับเกิน 1.8 ล้านบาท ที่ให้บริการในประเทศไทย จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม นำส่งให้กับกรมสรรพากร โดยไม่มีภาษีซื้อ เช่น ถ้าให้บริการ 100 บาท จะต้องนำส่งทันที 7 บาท หรือ 7% ของค่าบริการ