กองทัพอากาศไทย ชี้แจงปมเครื่องบินรบเมียนมา รุกน่านฟ้าไทยหรือไม่ จากกรณีปะทะรบกันเดือดมีเสียงระเบิดดังฝั่งเมียนมา
เกิดเหตุระทึกบริเวณน่านฟ้าไทย หลังจาก เครื่องบินรบเมียนมา ประเภทเครื่องบินขับไล่แบบ MIG 29 จำนวน 1 ลำทำการบินเข้ามาในเขตประเทศไทยพื้นที่จังหวัดตาก นานประมาณ 15 นาที โดยการบินรุกล้ำเข้ามาเป็นระยะทางราว 5 กิโลเมตร เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งทางเฟซบุ๊ก Karen People ได้เผยคลิปเครื่องบินรบเมียนมา บินดังกล่าว

ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน ตื่นตระหนกตกใจ จนทำให้โรงเรียนที่อยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว 2 โรงเรียนสั่งปิดโรงเรียน
ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น จากสถานการณ์รบกันในประเทศเมียนมา ระหว่างกองกำลังรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ และทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงกองพลน้อยโดยเป้นการสู้รบในพื้นที่ อำเภอสุวาลี จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ซึ่งอยู่บริเวณตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก
โดยการรบกันครั้งนี้เต็มไปด้วย เสียงระเบิดที่ดังมาจากฝั่งประเทศเมียนมา ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่วาเล่ย์ใต้ ต้องกดออด เพื่อส่งสัญญาณ หนีในหลุบหลบภัยในหมู่บ้านกันอย่างระทึก

ขณะที่ความคืบหน้า สถานการณ์ดังกล่าวล่าสุด มีรายงานจากเฟซบุ๊ก ข่าวประจำวัน กองทัพอากาศ ในวันที่ 30 มิ.ย.65 ระบุว่า
กองทัพอากาศ นำเครื่องบิน F-16 ขึ้นบินลาดตระเวนรบ บริเวณแนวชายแดน อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลังตรวจพบอากาศยานทางทหาร บินล้ำแดน
พลอากาศตรี ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 11.16 น. หน่วยงานของกองทัพอากาศได้รายงานการตรวจพบอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บินล้ำแดนบริเวณอำเภอพบพระ จังหวัดตาก โจมตีกองกำลังชนกลุ่มน้อยบริเวณแนวชายแดนและบินล้ำแดนเข้ามายังพื้นที่ประเทศไทย ก่อนเป้าหมายจะจางหายไปจากระบบเรดาร์เฝ้าตรวจการณ์ของกองทัพอากาศในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ยังตรวจพบเฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติภารกิจอยู่ห่างจากแนวชายแดนบริเวณดังกล่าว ระยะทางประมาณ 5 ไมล์ทะเล (Nautical Mile) แต่มิได้ล้ำแดนมายังพื้นที่ประเทศไทยแต่อย่างใด
กองทัพอากาศ จึงได้มีคำสั่งให้เครื่องบินขับไล่แบบที่ 19 หรือ F-16 จำนวน 2 เครื่อง ขึ้นบินลาดตระเวนรบทางอากาศทันที บริเวณแนวชายแดนอำเภอพบพระ จังหวัดตาก และได้สั่งการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศ ประจำสถานเอกอัครทูต ณ ย่างกุ้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อแจ้งเตือนและหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต
กองทัพอากาศจะติดตามความเคลื่อนไหวสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังเหตุการณ์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงพื้นที่ตามเขตแนวชายแดน ตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นว่ากองทัพอากาศจะมุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจการป้องภัยทางอากาศอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อพิทักษ์รักษาอธิปไตยและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยเป็นสำคัญ
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม
ชาวเน็ตแห่คอมเมนต์ นักเขียนซีไรต์ ไม่ปลื้มผู้ว่าชวนพนง.กวาดถนนร่วมโต๊ะทานข้าว
ไม่ต้องตกใจ!! ธนบัตรชำรุด สามารถแลกเปลี่ยนเป็นธนบัตรใหม่ได้
เปิดบทลงโทษ! ญี่ปุ่นเตือนคนไทยฝ่าฝืนนำ กัญชา กัญชง เข้าประเทศ