ตามที่ปรากฎเป็นข่าวเรื่องปัญหาการเรียกคืนเงิน เบี้ยผู้สูงอายุ ที่ซ้ำซ้อน โดยผู้สูงอายุไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินนั้น
เกี่ยวกับประเด็นนี้ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เผยว่า “กรณีนี้ถือเป็นเรื่องลาภมิควรได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๓๐๖ – ๓๑๙ ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจ่ายเงินเบี้ยผู้สูงอายุให้แก่ผู้สูงอายุที่ไม่มีสิทธิได้รับ เนื่องจากซ้ำซ้อนกับเบี้ยชนิดอื่นที่ผู้สูงอายุได้รับไปแล้ว
กรณีนี้ถือว่าเงินจำนวนที่รัฐจ่ายให้ผู้สูงอายุโดยผิดหลงไป เป็นเงินที่ผู้สูงอายุได้รับไปโดยไม่มีมูลอันจะอ้างตามกฎหมายได้ จึงถือเป็นลาภมิควรได้ ตามมาตรา ๔๐๖ เมื่อปรากฎว่าผู้สูงอายุได้รับเงินนั้นมาโดยสุจริต และได้ใช้จ่ายไปหมดแล้วก่อนที่รัฐจะเรียกคืน ผู้สูงอายุนั้นจึงไม่ต้องคืนเงินนั้น ตามมาตรา ๔๑๒ (นัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๐๘๕๐/๒๕๕๙)
สิ่งที่รัฐต้องดำเนินการในส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จ่ายเงินเบี้ยคนชราโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือผิดหลง ก็คือต้องตั้งกรรมการเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดแก่เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่ผู้สูงอายุ
หากได้ความว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นก็ต้องรับผิดเป็นการส่วนตัวและชดใช้เงินคืนแก่รัฐตามสัดส่วนที่หน่วยงานนั้นเสนอความเห็นและกรมบัญชีกลางเห็นชอบด้วย”
กรมบัญชีกลาง แจง เรียกเก็บเบี้ยผู้สูงอายุคืน 84,000 บาท จากยายอายุ 89 ปี
ทนาย ชี้ เจ้าหน้าที่บกพร่อง ยายรับเงินโดยสุจริต ไม่ต้องคืน เบี้ยผู้สูงอายุ
ครม.เห็นชอบ! ลดภาษีที่ดิน – ที่อยู่อาศัย ขยายเวลายื่นภาษีเงินได้