ชาวเน็ตแห่! สนับสนุน เลื่อนเปิดเทอม ชี้ ยังไม่ไว้ใจสถานการณ์โควิด

ชาวเน็ตร่วม สนับสนุน เลื่อนเปิดเทอม ในพื้นที่เสี่ยง 28 จังหวัด เนื่องจากยังไม่ไว้วางใจ สถานการณ์โควิด-19 ผู้ปกครองหวั่นลูกหลานติดเชื้อ

จากประกาศของรัฐบาลที่สั่งให้โรงเรียนใน 28 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงทำการปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษไปเมื่อวันที่ 4-31 มกราคม เพราะสถานการณ์โควิดที่แพร่ระบาดรอบสอง โดยจะให้โรงเรียนทำการสอนตามแนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด

ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ได้มีเปิดเรียนตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ ให้เปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ แต่ก็ได้มีกระแสของโลกออนไลน์ ที่ออกมาเรียกร้องให้เลื่อนการเปิดเทอมออกไปก่อน เพราะว่าสถานการณ์ยังไม่มดีขึ้นเท่าที่ควร โดยให้เหตุผลของการเรียกร้องว่า

ยอดผู้ติดเชื้อยังพุ่งสูง
โควิดที่แพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบันสามารถกระจายเชื้อได้อย่างรวดเร็ว นักเรียนที่เดินทางมาโรงเรียน มีทั้งนักเรียนที่เดินทางโดยขนส่งสาธรณะ ซึ่งมีความเสี่ยงมาก และธรรมชาติของเด็กมีพฤติกรรมที่อยู่ใกล้กันเกินสองเมตรแน่นอน

มาตรการป้องกันของกระทรวง

การให้เด็กใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากเพราะไม่สามารถทำได้เลยตอนที่พักกินข้าว เด็กอาจมีพฤติกรรมการจับกลุ่มคุยกัน อีกทั้งตอนเย็นที่เลิกเรียน ก็ไม่สามารถที่จะควบคุมได้ทุกคน
จัดห้องเรียนห้องละ 25 คน
ต่อให้จัดกลุ่มนักเรียนสลับวันเรียนก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ดี กว่าจะเดินทางไปโรงเรียน กว่าจะกลับบ้าน ถ้าเกิดติดเชื้อขึ้นมาก็น่าจะไปแพร่ให้คนในครอบครัวต่อ การจัดคู่คี่ไม่ช่วยอะไร เหมือนการนำตัวเองไปในพื้นที่เสี่ยงอยู่ดี ควรเรียนแบบออนไลน์ 100% จะดีกว่า

ทำไมถึงควรเรียนออนไลน์ต่อ

การเรียนออนไลน์อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับบางคน แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ นี่คือทางออกที่ดีที่สุดที่จะไม่มนำตัวเราไปในพื้นที่เสี่ยงฃ
ผู้ปกครองนักเรียนบางคนเป็นห่วงลูกหลาน ไม่อยากให้ต้องไปติดเชื้อ หากติดเชื้อขึ้น รัฐบาลสามารถรับผิดชอบทุกคนได้หรือไม่
การสอนผ่านทีวี วิธีนี้เป้นวิธีที่ดี แต่ว่าครั้งก่อนเคยมีการจัดทำแต่อาจยังไม่ดีพอเพราะการสอนอาจน่าเบื่อสำหรับเด็กบางคน ควรนำงบไปจ้างติวเตอร์ที่สามารถทำให้เด็กเพลิดเพลินกับการสอนโดยไม่เบื่อดีกว่าการนำครูทั่วไปมาสอน เพราะจะทำให้เด็กเบื่อไม่อยากเรียนต่อ

โดยประเด็นดังกล่าวนี้ ทางเฟซบุ๊กเพจ หมอแล็บแพนด้า ก็ได้นำมาโพสต์เพื่อสอบถามความคิดเห็นจากชาวเน็ต โดยผู้ที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นก็ได้ให้เหตุผลว่า

“ถ้าถามพ่อแม่ไม่มีใครอยากให้เปิดเลยค่ะสถานการณ์แบบนี้ แต่ฝั่งลูกเค้าอยากเปิด เพราะเรียนออนไลน์ไม่รู้เรื่อง ครูก็ให้งานเยอะมาก ลูกนอนดึกทุกวัน แบบนี้ถ้าจะเอาความรู้ไม่ได้แน่ๆรีบทำแต่งานส่ง เด็กเครียดเปล่าๆ ทั้งๆที่ถามเด็กแล้วนะว่าครูให้งานเยอะไปมั้ย ต่อให้บอกว่าเยอะก็ไม่มีประโยชน์ เข้าใจว่าครูก็คงกลัวจะสอนไม่ทัน”

อย่างไรก็ตาม ทาง ศบค. ยืนยันว่า เด็กๆ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 น้อยกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจาก ผลกระทบของโรคโควิด-19 ต่อเด็กอายุตํ่ากว่า 10 ปีนั้นแตกต่างออกไปจากผู้ใหญ่ , จากยอดผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมดในปี 2563 จํานวน
ผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุตํ่ากว่า 18 ปีนั้น คิดเป็นเพียงร้อยละ 8 และสําหรับผู้ป่วยอายุตํ่ากว่า 20 ปี อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่เพียงร้อยละ 0.2

หลักฐานเดียวที่เคยระบุว่าโรงเรียนเป็นแหล่งกระจายเชื้อโควิด-19 คือเหตุการณ์ในประเทศอิสราเอล เมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ซึ่งนักเรียนได้รับอนุญาตให้ถอดหน้ากากในห้องเรียนปรับอากาศเพราะมีภาวะคลื่นความร้อน , ผลที่เกิดจากการระบายอากาศที่ไม่เพียงพอและการไม่สวมหน้ากาก คือ มีนักเรียน 153 รายและเจ้าหน้าที่ 25 รายติดเชื้อโควิด-19