นิด้าโพล เผยประชาชนกว่าร้อยละ 40 ค่อนข้างพึงพอใจมาตรการป้องกันโรคโควิดของรัฐบาล

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ความเชื่อมั่นต่อระบบสาธารณสุขของประเทศไทยกับการรับมือโรคโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่” พบว่า

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความพึงพอใจต่อมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 ของรัฐบาลตั้งแต่มีการแพร่ระบาดจนถึงปัจจุบัน พบว่า

  • ร้อยละ 40.03 ระบุว่า ค่อนข้างพึงพอใจ เพราะประชาชนได้วัคซีนอย่างทั่วถึง มีมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มงวด สามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด 19
  • ร้อยละ 28.08 ระบุว่า ไม่ค่อยพึงพอใจ เพราะการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 การจัดสรรวัคซีนที่ล่าช้า การนำวัคซีนที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมาฉีดให้แก่ประชาชน
  • ร้อยละ 16.97 ระบุว่า พึงพอใจมาก เพราะมีมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มงวด มีการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ให้แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง สามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด 19
  • ร้อยละ 14.92 ระบุว่า ไม่พึงพอใจเลย เพราะการบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ การบริหารวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ล่าช้า วัคซีนไม่มีคุณภาพ มาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ

ด้านความเชื่อมั่นต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ของรัฐบาลในอนาคต พบว่า

  • ร้อยละ 36.76 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น เพราะมาตรการป้องกันไม่เข้มงวด การนำวัคซีนที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมาฉีดให้แก่ประชาชน โรคโควิด 19 มีการกลายพันธ์อย่างต่อเนื่อง รองลงมา
  • ร้อยละ 32.50 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น เพราะรัฐบาลสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถจัดสรรวัคซีนให้แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง
  • ร้อยละ 18.19 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นเลย เพราะการบริหารไม่มีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาล่าช้า มาตรการไม่เข้มงวด การบริหารวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพ
  • ร้อยละ 12.55 ระบุว่า เชื่อมั่นมาก เพราะมาตรการป้องกันมีความการชัดเจนและเข้มงวด มีการจัดสรรวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง สถานการณ์ภายในประเทศดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง

สำหรับความกังวลต่อโรคโควิด 19 สายพันธุ์ “โอมิครอน (Omicron)” พบว่า

  • ร้อยละ 34.78 ระบุว่า ค่อนข้างกังวล เพราะสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงและต้องเดินทางบ่อย วัคซีนที่ได้รับมีประสิทธิภาพลดลงในการป้องกัน, มาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยว รองลงมา
  • ร้อยละ 24.96 ระบุว่า กังวลมาก เพราะเชื้อกลายพันธุ์สามารถแพร่กระจายได้รวดเร็ว วัคซีนที่ได้รับมีประสิทธิภาพลดลง
    ในการป้องกัน มาตรการคลายล็อกดาวน์ของรัฐบาล การบริหารของรัฐบาลยังไม่มีประสิทธิภาพ
  • ร้อยละ 22.91 ระบุว่า ไม่ค่อยกังวล เพราะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 การแพร่ระบาดภายในประเทศมีจำนวนน้อย ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยสามารถรับมือได้ ไม่ได้พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
  • ร้อยละ 17.35 ระบุว่า ไม่กังวลเลย เพราะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ต้องปรับตัวเพื่ออาศัยอยู่กับโรคโควิด 19 ให้ได้ ไม่ได้พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เป็นสายพันธุ์ไม่ค่อยมีความรุนแรง

ด้านความคิดเห็นต่อการกลายพันธุ์ของโรคโควิด 19 ในอนาคต นอกจากสายพันธุ์ “โอมิครอน (Omicron)” และ “เดลต้า (Delta)” พบว่า

  • ร้อยละ 36.00 ระบุว่า เกิดการกลายพันธุ์ และมีความรุนแรงมากกว่าเดิม รองลงมา
  • ร้อยละ 26.56 ระบุว่า เกิดการกลายพันธุ์ และมีความรุนแรงเหมือนเดิม
  • ร้อยละ 14.84 ระบุว่า เกิดการกลายพันธุ์ แต่มีความรุนแรงน้อยลง
  • ร้อยละ 8.30 ระบุว่า ไม่เกิดการกลายพันธุ์ ร้อยละ 4.03 ระบุว่า เกิดการกลายพันธุ์ แต่ไม่มีความรุนแรง
  • ร้อยละ 10.27 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ

สำหรับวิธีการป้องกันตนเองจากโรคโควิด 19 พบว่า

  • ร้อยละ 94.67 ระบุว่า สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ รองลงมา
  • ร้อยละ 76.79 ระบุว่า ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
  • ร้อยละ 65.07 ระบุว่า ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19
  • ร้อยละ 41.32 ระบุว่า หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง เช่น ตลาด สถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
  • ร้อยละ 36.53 ระบุว่า เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เช่น ยืนหรือนั่งห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร เป็นต้น
  • ร้อยละ 10.73 ระบุว่า งดทำกิจกรรมหรืองานเลี้ยงสังสรรค์ทั้งภายในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง
  • ร้อยละ 9.97 ระบุว่า อาบน้ำทันที เมื่อกลับถึงที่พัก และติดตามข่าวสารสถานการณ์เกี่ยวกับโรคโควิด 19 ในสัดส่วนที่เท่ากัน
  • ร้อยละ 6.77 ระบุว่า ตรวจหาเชื้อโรคโควิด 19
  • ร้อยละ 6.70 ระบุว่า กักตัวอยู่บ้าน (Self-isolated) เมื่อรู้สึกไม่สบาย
  • ร้อยละ 6.09 ทำงานที่บ้าน (Work from home) และเดินทางเท่าที่จำเป็น และร้อยละ 4.11 ระบุว่า ใช้แอปพลิเคชัน เช่น ไทยชนะ หมอชนะ เป็นต้น

ส่วนความคิดเห็นต่อมาตรการด้านสาธารณสุขของประเทศในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่ พบว่า

  • ร้อยละ 66.97 ระบุว่า การจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและเพียงพอในการป้องกันโรคโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่ รองลงมา
  • ร้อยละ 46.27 ระบุว่า การจัดหายารักษาโรคโควิด 19 ที่มีคุณภาพ
  • ร้อยละ 28.39 ระบุว่า การอนุญาตให้ภาคเอกชนสามารถสั่งซื้อ หรือนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19
  • ร้อยละ 26.71 ระบุว่า การเพิ่มจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ให้เพียงพอต่อการดูแลและช่วยเหลือผู้ป่วย
  • ร้อยละ 25.42 ระบุว่า การออกกฎ ข้อบังคับให้ทุกคนในประเทศต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19
  • ร้อยละ 24.12 ระบุว่า การเพิ่มจำนวนเตียง โรงพยาบาลสนาม และหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ให้เพียงพอต่อการดูแลผู้ป่วย
  • ร้อยละ 23.21 ระบุว่า การให้ความสำคัญมากขึ้นกับการดูแลบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า
  • ร้อยละ 21.84 ระบุว่า การพึ่งพาการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ให้มากขึ้น
  • ร้อยละ 2.82 ไม่ทราบ/ไม่ตอบ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อมาตรการด้านการเดินทางทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่ พบว่า

  • ร้อยละ 68.95 ระบุว่า การเพิ่มความเข้มงวดและรัดกุมในการตรวจสอบโรคโควิด 19 กับผู้เดินทางเข้าประเทศทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รองลงมา
  • ร้อยละ 38.81 ระบุว่า การเพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงแก่ผู้ลักลอบขนแรงงานต่างชาติตามชายแดน
  • ร้อยละ 31.51 ระบุว่า การปิดประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่
  • ร้อยละ 20.24 ระบุว่า การประกาศจำกัดการเดินทางภายในประเทศทันทีที่มีการแพร่ระบาดภายในประเทศของโรคโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่
  • ร้อยละ 18.87 ระบุว่า การจำกัดสิทธิของผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนในการเข้าถึงบริการของรัฐ การออกไปในพื้นที่สาธารณะ หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ
อาจเป็นการ์ตูนรูป หนึ่งคนขึ้นไป
ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

ข่าวที่น่าสนใจ

เปิด 3 เงื่อนไข!ให้ประกัน รุ้ง ปนัสยา คดีอยุธยาจะไม่ทน ยกเลิกใส่กำไล EM

ครม.เคาะ! กว่า 500 ล้าน จ่ายเงินเยียวยาผู้เลี้ยงสุกร 56 จังหวัด

สังคมว่าไง! น้ารับไม่ได้หลานเป็นกะเทย บังคับตัดผมสั้น ทำร้ายร่างกาย แฟนหนุ่มลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

คลิปใหม่! เบียร์ เดอะวอยซ์ โชว์เสียว 18+ ฉลอง 1 ล้านวิว [มีคลิป]

แรงตั้งแต่เพลงยังไม่จบ เบียร์ เดอะวอยซ์ เสิร์ฟคอนเทนต์ฉลอง 1 ล้านวิว ทำเอาโซเชียลแทบหยุดหายใจ เรียกเสียงฮือฮาตั้งแต่วันเปิดตัวจริงๆ สำหรับมิวสิกวิดีโอ […]

คลิปใหม่ล่าสุด F-16 ทิ้งไข่ใส่หัวทหารเขมร แม่นเหมือนจับวาง

เปิดคลิปใหม่ล่าสุดวันนี้ F-16 ทิ้งไข่ใส่หัวทหารเขมร เสียงดังสนั่นบนภูเขา ด้านทหารไทยสั่งเข้าตีต่อทันที

อัลเทอร่า vs โบท็อกหน้าเรียว เลือกอะไรดี? เทียบชัดจบทุกปัญหา

หน้าใหญ่จากกล้ามเนื้อหรือผิวหย่อนคล้อย? เทียบชัดอัลเทอร่า vs โบท็อกหน้าเรียว เลือกอะไรดีให้เหมาะกับคุณ อ่านสรุปจบก่อนตัดสินใจ

ด่วน! รวบคาบ้าน มนัส บุญจํานงค์ ฮีโร่โอลิมปิคฐานฉ้อโกง

ตำรวจสอบสวนกลาง บุกรวบคาบ้านพักแห่งหนึ่ง มนัส บุญจํานงค์ อดีตฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทอง เหรียญเงินในความผิดฐานฉ้อโกง 19 ธ.ค. 68 มีรายงานข่าวว่า ตำรวจสอบสว […]

TIJ จับมือ WJP – กกร. ภาครัฐ–เอกชน ยกระดับหลักนิติธรรมไทย

TIJ ผนึก WJP และ กกร. รวมพลังภาครัฐ–เอกชน ยกระดับหลักนิติธรรมไทย สร้างความเชื่อมั่นในระดับสากล

เฉลย! เขมรยิงโดรนไทยร่วง ที่แท้เป็นเป็นอากาศยานไร้คนขับแบบ DP-20 ของกองทัพบก

เพจดังยืนยันแล้ว เขมรยิงโดรนไทยร่วง ที่ปอยเปตพบเป็นอากาศยานไร้คนขับแบบ DP-20 หรือ D-eyes 04 ของกองทัพบกไทย
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า
ปิดโหมดสีเทา