โควิด19 น่าห่วง! หมอธีระ เผยติดเชื้อรายวันไทยสูงสุดในรอบ 232 วัน

โควิด19 — หมอธีระ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์โควิด ในประเทศไทยวันที่ 14 ธันวาคม 2563 โดยระบุว่า

“วันนี้ยอดติดเชื้อรายวันของไทย 28 ราย นับว่าสูงสุดในรอบ 232 วัน หรือ 33 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ส่วนตัวแล้วผมมองว่าสถิติที่เห็นนั้นน่าเป็นห่วง แม้คนอาจบอกว่าทุกรายที่ติดเชื้อได้รับการกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดไว้ให้ก็ตาม ทั้งในรูปแบบปกติหรือแบบทางเลือก

ดังนั้นน่าจะปลอดภัย แต่สัจธรรมคือ ยิ่งมีเคสติดเชื้อเข้ามามากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่หลุดรอดจากระบบก็จะมีมากขึ้น แม้ว่าจะพยายามอย่างเต็มที่ตามมาตรฐานก็ตาม

ภาพรวมของสถานการณ์การระบาดทั่วโลกนั้นดูรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลายประเทศยอมรับแล้วว่าพอเจอระบาดซ้ำ สู้ไม่ไหว จำเป็นต้องดำเนินมาตรการเข้มข้นเพื่อให้อยู่รอด

ล่าสุดเยอรมันก็ออกมาบอกแล้วว่าต้องล็อคดาวน์ทั้งประเทศไปจนถึงปีใหม่ และถือเป็นการจำกัดการใช้ชีวิตทั้งส่วนตัวและสาธารณะที่หนักหน่วงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ เนื่องจากจำนวนการติดเชื้อต่อวันสูงมาก และมีคนเสียชีวิตจำนวนมาก

เนเธอร์แลนด์เป็นอีกประเทศที่มีข่าวว่า กำลังจะออกมาประกาศล็อคดาวน์ เนื่องจากระบาดระลอกสองครั้งนี้แม้จะเริ่มมาตั้งแต่กันยายน จนพุ่งไปเกินหมื่นคนต่อวันในเดือนตุลาคม และมีแนวโน้มลดลงบ้างในช่วงพฤศจิกายน แต่บัดนี้กลับสูงขึ้นมากจนเกือบหมื่นคนต่อวันอีกครั้ง หากปล่อยเช่นนี้ต่อไปจะส่งผลกระทบรุนแรงตามมา

ทั้งนี้คาดว่าเค้าจะประกาศในวันสองวันนี้ และอาจยาวไปถึงกลางเดือนมกราคมปีหน้า
สำหรับประเทศไทย เคสบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อกันในประเทศก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น ถือเป็นบทเรียนที่ตอกย้ำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันตัว ไม่ว่าจะเป็นประชาชน หรือบุคลากรทางการแพทย์ ก็มีโอกาสติดเชื้อได้เสมอ

ในขณะที่เคสติดเชื้อที่ลักลอบเข้าเมือง มีรายงานเพิ่มขึ้นตลอดทุกวัน ไม่ว่าจะมาจากเมียนมาร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา หรือมาเลเซียก็ตาม ก็เป็นสัญญาณเตือนให้ประชาชนในประเทศเช่นกัน

ทั้งศึกนอกและศึกในข้างต้นยังไม่พอ ที่น่าวิตกมากในตอนนี้คือ “ภาวะการ์ดตกในประเทศ” ครับ

ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจห้างร้าน ผู้จัดงานแสดงต่างๆ ที่ไม่เคร่งครัดต่อมาตรฐานการป้องกันที่รัฐกำหนดไว้
หนึ่ง “การใส่หน้ากาก ทั้งผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ” เป็นหัวใจสำคัญยิ่ง หากจะค้าขาย ทำมาหากินได้ยาวนาน ต้องเคร่งครัด มิฉะนั้นอาจประกอบการได้ไม่กี่วัน ก็จะเจอแจ็คพอตระบาดซ้ำต้องปิดยาว และอาจลุกขึ้นไม่ไหว

สอง “กระบวนการคัดกรอง วัดไข้ และเก็บข้อมูลลูกค้า” เรื่องนี้จำเป็นต้องทำ อย่าคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ลองคิดดูว่าหากมีลูกค้าติดเชื้อเดินเข้ามาในงาน ในร้าน แต่ไปตรวจพบในวันเวลาอื่น หากเราไม่มีบันทึกประวัติเค้าไว้ ใครล่ะจะมาเตือน มาตรวจเราได้ กว่าจะรู้ตัวอีกทีคนของกิจการเราก็อาจติดเชื้อไปแล้ว หรือแพร่กันเละเทะ

สาม “ไม่ให้แออัด อยู่กันห่างหน่อย” สิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน หากเราไม่ประเมินกิจการ งานตนเอง ว่ามีศักยภาพในการรองรับ ดูแลลูกค้าได้แค่ไหน แล้วดันไปรับลูกค้าเข้าร้านไม่อั้น จำหน่ายตั๋วหรือบัตรมากมายให้คนมางาน หวังทำยอดขาย ก็จะเห็นสถานการณ์เบียดเสียดเยียดยัด แออัดล้นร้าน ล้นงาน หายนะก็จะตามมาในอีกไม่นาน

ผมมองว่าไทยเราดูเหมือนกำลังจะมีโอกาสตกม้า…จนอาจบาดเจ็บหรือตายได้ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป
ถามว่าจะทำอย่างไร…คำตอบชัดเจนอยู่แล้วคือ ทุกคนต้องช่วยกัน

เจ้าของธุรกิจห้างร้าน ผู้ประกอบการ ต้องเคร่งครัด ขอให้คิดถึงเหตุผลหลักอย่างเดียวไปเลยว่า “ทำเพื่อให้กิจการของท่านอยู่รอดปลอดภัยจากโควิด” เพราะจะรอดได้ ท่านและลูกน้องท่านต้องไม่ติดเชื้อ ทำทุกทางที่จะป้องกันอย่างเต็มที่

ขณะที่ทำมาหากินไปด้วย ถ้าท่านป้องกันได้ดี ลูกค้าก็จะได้อานิสงส์ไปโดยอัตโนมัติ
ส่วนประชาชนนั้น ควรใช้ขีวิตอย่างมีสติ ประเมินตนเองว่าตกอยู่ในสถานการณ์ สถานที่ ที่เสี่ยงหรือไม่ และหากสภาพแวดล้อมที่ตนเองไปนั้นมันเสี่ยงมากที่จะรับเชื้อมาจากคนอื่นๆ ก็ควรตัดสินใจออกมาจากที่นั้นโดยเร็ว แต่หากไปสัมผัสความเสี่ยงในรูปแบบต่างๆ มาแล้ว ก็ควรคอยสังเกตอาการตนเองหลังจากนั้นอย่างน้อย 14 วัน ถ้าไม่สบายก็หยุดเรียน หยุดงาน และรีบไปตรวจรักษา

บอกตรงๆ…เห็นหลายเหตุการณ์ช่วงนี้แล้วหวาดเสียวแทนพวกเราทุกคนว่า ปีใหม่นี้ ไทยเราจะได้ฉลองในรูปแบบใด

ถ้าไม่อยากฉลองแบบเครียด เหงาหงอย เดียวดาย…เราต้องช่วยกันเคร่งครัดตั้งแต่บัดนี้
รื่นเริงแบบปกติที่เคยมีในอดีตนั้น ทำไม่ได้อย่างแน่นอนครับในสถานการณ์ระบาดรุนแรงทั่วโลกเช่นนี้
มาวางแผนจัดกิจกรรม และกิจการรื่นเริงแบบปลอดภัยจริงๆ และไปรื่นเริงแบบมีสติกันนะครับ…
ด้วยรักต่อทุกคน

เครดิตภาพ xinhuathai

เอาแล้ว!!! หมอมนูญ เผยเชื้อ โควิด19 แพร่กระจายในที่ร่ม มากกว่ากลางแจ้ง

ตรวจสอบด่วน! ธ.ก.ส. เตรียมปิดลงทะเบียน สินเชื่อฉุกเฉิน โควิด 19 ใน 15 ธ.ค.นี้

หมอยง เผยแนวทางพัฒนา ข้อดี – ข้อเสีย วัคซีนโควิด 19

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กโจ๊ก” ยันปลดป้ายชื่อไม่ใช่ฝีมือลูกน้อง ลั่นใครทำก็รับกรรมไป!?

“บิ๊กโจ๊ก” ยันลูกน้องไม่ได้ปลดป้ายชื่อหน้าห้องทำงาน ยอมรับคิดเรื่องสมัคร สว.เพราะจะได้ทำงานเพื่อประชาชนระหว่างถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน

อ.น้องไนซ์มาแล้ว! เตรียมยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อนายกรัฐมนตรี ​29 เม.ย.​นี้

เอาจริง! อ.น้องไนซ์ เตรียมยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อนายกรัฐมนตรี เอาผิดสื่อมวลชล นำเสนอข่าวเท็จ เป็นการทำให้สังคมแตกแยก 29 เมษายนนี้?

ระทึก! รถทัวร์ 2 ชั้นนำเที่ยว เสียหลักพลิกคว่ำ ทำผู้โดยสารดับ 1 เจ็บ 28 ราย

รถทัวร์ 2 ชั้นนำเที่ยว คณะหนุ่มสาวโรงงานจากอยุธยา เกิดอุบัติเหตุ เสียหลักพุ่งข้ามแบริเออร์พลิกคว่ำทางลงเขา ทำผู้โดยสารดับ 1 เจ็บ 28 ราย

สลด! แท็กซี่เมาขับรถพุ่งชน รตต.รอง สว.จร.บางเขน เสียชีวิต ขณะปฎิบัติหน้าที่

รวบตัวคนแท็กซี่เมาแล้วขับ ชน รตต.รอง สว.จร.บางเขน เสียชีวิต ขณะปฎิบัติหน้าที่ บมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 287 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

อินฟลูฯ ดัง ฟาดช็อตเด็ด นุ่งบิกินีลายเสือ แซ่บซี๊ดปาก ถูกใจแฟนคลับ

อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ไม่ทิ้งลายความแซ่บ ออกมาฟาดช็อตเด็ดปาเซตบิกินีลายเสือ ความเผ็ดคูณร้อย เซ็กซี่ถูกใจแฟนคลับ

หนูรัตน์ เอาจริง! เข้าฟิตเนส ปั้นหุ่นแซ่บเซี๊ยะ ตั้งเป้าลดเอวเหลือ 20 นิ้ว

ชาวเน็ตแซว หนูรัตน์ เข้าฟิตเนสออกกำลังกาย ปั้นหุ่นสวยแซ่บเชี๊ยะ พร้อมตั้งเป้าหมายอยากกลับไปมีเอว 19-20 นิ้ว แฟนๆ ให้เชียร์เต็มที่
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า