โควิด19 วันนี้ ๑ เมษายน ๒๕๖๓ ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดำเนินการกับผู้ที่ยังคงกระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมาย อันเป็นการเอารัดเอาเปรียบและซ้ำเติมประชาชน ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (COVID-19)
พลตำรวจโท ปิยะฯ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว แต่ยังคงปรากฏว่า มีประชาชนบางส่วนที่ยังคงฉวยโอกาสกระทำความผิด หรือก่ออาชญากรรมที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบและซ้ำเติมประชาชน ในขณะที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่างมีภารกิจสำคัญในการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 เรื่องดังกล่าว พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญ โดยได้สั่งการมายัง พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ดำเนินการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ และเตือนมายังมิจฉาชีพ ผู้ไม่หวังดี หรือผู้ที่ยังคงมีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น ยังคงฝ่าฝืนประกาศตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ การลักลอบเปิดสถานบริการ การรวมกลุ่มเล่นการพนัน การรวมตัวแข่งรถในทาง หรือการขับขี่รถขณะเมาสุรา รวมไปถึงมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสก่ออาชญากรรมเอารัดเอาเปรียบซ้ำเติมประชาชนในทุกรูปแบบ เช่น กักตุนสินค้าและบริการ การกู้ยืมเงินเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด การหลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่างๆ หรือการหลอกลวงขายสินค้าทางสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น ขอให้หยุดการกระทำในทันที
นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังได้กำหนดแนวทางให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกสถานีว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นคดีที่มีความจำเป็น เร่งด่วน ที่ต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็ว และให้รีบเสนอสำนวนมีความเห็นเสนอพนักงานอัยการสั่งฟ้องต่อศาล ขอให้ศาลลงโทษในสถานหนักและไม่รอการลงโทษ ในส่วนของกลางขอให้ศาลมีคำสั่งริบตามกฎหมาย และผู้กระทำความผิดที่มีประวัติเกี่ยวกับการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมาก่อน ขอให้ลงโทษสถานหนักด้วย
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นให้เป็นไปตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ รวมทั้ง พ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญาอื่นๆ เช่น พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ รวมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้พี่น้องประชาชนโปรดให้ความร่วมมือ ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลและคำแนะนำด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดต่อไป”
ผลการดำเนินการจับกุมผู้ที่ยังคงมีการฝ่าฝืนกฎหมาย ในห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
๑) การจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.๒๕๔๒ (อัตราโทษจำคุกไม่เกิน ๗ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๔๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
หน้ากากอนามัย จำนวน ๑,๓๑๘,๓๑๐ ชิ้น มูลค่า ๙,๓๗๖,๕๕๖ บาท
ไข่ไก่ จำนวน ๖๑๔,๗๗๐ ฟอง มูลค่า ๒,๒๘๓,๑๕๐ บาท
แอลกฮอล์เจล จำนวน ๑,๒๐๐ ขวด
แอลกฮอล์ จำนวน ๔๑ ถัง จำนวนปริมาตร ๒๗๖.๐๔ ลิตร
เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๓ ศาลอาญา พิพากษาลงโทษผู้ที่ลักลอบจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา จำนวน ๗ ราย โดยศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า จำเลยมีการกระทำอันเป็นการฉกฉวยโอกาสที่โรคไวรัสโควิด-19 อุบัติร้ายแรงแพร่ไปทั่วโลก บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนมีความจำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัย สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว แต่จำเลยกลับจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุมที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงเห็นสมควรไม่รอการลงโทษ โดยศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งหมด จำคุกตั้งแต่ ๑ ปี ๖ เดือน ไปจนถึง รอการกำหนดโทษ แล้วแต่ปริมาณของกลาง และริบของกลางทั้งหมด
๒) การจับกุมผู้ที่โพสต์หรือส่งต่อข่าวปลอม Fake News สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชนและสังคม ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐ (อัตราโทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
จับกุม จำนวน ๑๙ คดี
ผู้ต้องหา จำนวน ๒๕ คน
๓) การจับกุมผู้ฝ่าฝืนประกาศตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.๒๕๕๘ (อัตราโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
ลักลอบเปิดสถานบริการ จำนวน ๘ ราย
ร้านนวดสปา จำนวน ๓ ราย
ร้านอาหาร จำนวน ๕ ราย
ร้านเกมส์ จำนวน ๒ ราย
บ่อนการพนัน จำนวน ๒ ราย
รวมจับกุมจำนวน ๑๙ ราย ผู้ต้องหา ๘๘ คน
๔) การห้ามมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค อันอาจขัดต่อ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ (จำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
๕) การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ตามฐานความผิดที่กฎหมายกำหนด