เรื่องที่หลายคนกำลังให้ความสนใจกับเรื่องราวของสถานีอวกาศ “เทียนกง-1” หรือแปลเป็นไทยว่า “พระราชวังบนสรวงสวรรค์” ที่องค์กรอวกาศระหว่างประเทศ รวมทั้งของไทย “จิสด้า” คาดการณ์ตรงกันว่า หากไม่มีปัจจัยอื่น ๆ ทำให้ทิศทางการโคจรเปลี่ยนแปลง “เทียนกง-1” อาจลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกแน่นอน ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 4 เมษายน นั้น ล่าสุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอวกาศของจีน ออกมายืนยันว่า การตกของสถานีอวกาศเทียนกง-1 ไม่กระทบกับภาคพื้นโลกและจะถูกเผาไหม้ผ่านชั้นบรรยากาศอย่างแน่นอน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานแถลงการณ์ถึงกรณีสถานีอวกาศ “เทียนกง-1” ที่คาดว่าจะตกสู่พื้นโลกภายในวันอาทิตย์นี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยหน่วยงานด้านวิศวกรรมอวกาศของจีน หรือ “ซีเอ็มเอสอีโอ” ระบุว่า เทียนกง-1 จะถูกเผาไหม้ระหว่างกำลังผ่านชั้นบรรยากาศ และมีแนวโน้มที่จะสร้างความเสียหายบนภาคพื้นโลกน้อยมาก และยังมองว่าการที่ยานอวกาศจะพุ่งชนโลก “มีแต่ในภาพยนตร์ไซไฟเท่านั้น” แต่จะดูเหมือน “ฝนดาวตกอันสวยงาม”
ทั้งนี้ หน่วยงานด้านวิศวกรรมอวกาศของจีน เคยออกมาประกาศก่อนหน้านี้ว่า สถานีอวกาศ “เทียนกง-1” เริ่มมีการสลายของวงโคจร ตั้งแต่สิ้นสุดภารกิจเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2559 และจะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกในช่วงวันที่ 31 มีนาคม ถึง 4 เมษายนนี้
อย่างไรก็ตาม ซีเอ็มเอสอีโอ พร้อมด้วยองค์การอวกาศยุโรป หรือ “อีเอสเอ” แอโรสเปซ คอร์ปอเรชั่น ของสหรัฐฯ และองค์กรเฝ้าระวังสถานการณ์อวกาศแห่งชาติเกาหลีใต้ คาดการณ์ระยะเวลาการตกสู่โลกของสถานี “เทียนกง-1” ไว้ใกล้เคียงกัน คือ ระหว่างเวลา 23.25 น. ตามเวลามาตรฐานสากลของวันที่ 1 เม.ย. (หรือตามเวลาในประเทศไทย คือ เช้าตรู่วันที่ 2 เมษายน เวลาประมาณ 06.25 น.) จนถึงช่วงรุ่งสางของวันที่ 2 เม.ย. ตามเวลามาตรฐานสากล
Every week, on average, a substantial, inert satellite drops into our atmosphere and burns up. Monitoring these reentries and warning European civil authorities has become routine work for ESA’s #spacedebris experts #tiangong1 #reentry
Read more: https://t.co/5eBJzT2E67 pic.twitter.com/XI98duU1xV— ESA (@esa) March 30, 2018
สำหรับกระบวนการกลับเข้าสู่โลกสถานีอวกาศเทียนกง-1 ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 8 ตัน และมีความยาวประมาณ 10 เมตร จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงแรกชั้นบรรยากาศทำให้ชิ้นส่วนภายนอกของสถานีอวกาศหลุดออกที่ความสูง 100 กิโลเมตร และระหว่างที่ร่วงลงมา โครงสร้างหลักของเทียนกง-1 จะถูกเผาไหม้หรือระเบิดออกประมาณ 20-40 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากความร้อนและการเสียดสีกับชั้นบรรยากาศของโลกที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยความเร็วประมาณ 26,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนจะสลายไปที่ความสูง 80 กิโลเมตร
ด้าน ดร.สิทธิพร ชาญนำสิน ผู้เชี่ยวชาญกลศาสตร์วงโคจร สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ “จิสด้า” กล่าวว่า ล่าสุด สถานีอวกาศเทียนกง-1 ตรวจพบอยู่เหนือมหาสมุทรแปซิฟิก ใกล้ฝั่งประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเคลื่อนด้วยความเร็ว 7 – 10 กิโลเมตรต่อวินาที แต่จะเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ตามการเคลื่อนตัวใกล้พื้นโลกที่มีแรงดึงดูดให้เคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น ส่วนโอกาสที่จะตกในพื้นที่ประเทศไทยนั้น คาดว่าโอกาสตกมีเพียงร้อยละ 0.1 เท่านั้น ไม่ใช่ 1 เปอร์เซ็นต์อย่างที่เป็นข่าว แต่เส้นทางของวงโคจรจะผ่านภาคใต้ตอนบน บริเวณจังหวัดระนอง ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ จิสด้า จะรายงานให้ทุกท่านทราบอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ จิสด้า ร่วมกับ ปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งได้จัดทีมภาคสนามลงพื้นที่เตรียมความพร้อม หากเกิดกรณีฉุกเฉินซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่คณะทำงานติดตามสถานการณ์เทียนกง-1 ได้วางไว้ ส่วนประชาชนที่ต้องการติดตามสถานการณ์สามารถติดตามการรายงานได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ จับตาเทียนกง1 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับสถานีอวกาศเทียนกง-1 หรือ “พระราชวังแห่งสรวงสวรรค์” เป็นสถานีอวกาศแห่งแรกที่จีนสร้างขึ้นเอง ออกเดินทางขึ้นสู่วงโคจรโลกเมื่อปี 2554 และเดิมทีมีกำหนดดีดตัวเองออกจากวงโคจรเมื่อปี 2556 เพื่อแทนที่ด้วยสถานีเทียนกง-2 และเทียนกง-3 ตามลำดับ แต่สำนักงานวิศวกรรมอวกาศของจีนต่อเวลาใช้งานสถานีอวกาศเทียนกง-1 แต่ได้หยุดทำงานลงเมื่อปี 2559 และขาดการติดต่อตั้งแต่ปีที่แล้ว ก่อนจะตกลงสู่โลกระหว่างปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายนนี้
