ชาวบ้าน อ.กระบุรี จ.ระนอง พบมณฑปเก่าที่เดิมใช้คลุมศิลาจารึกพระปรมาภิไธยย่อรัชกาลที่ 5 พร้อมภาพยืนยันเมื่อปี 2502 ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ เยือน จ.ระนอง พร้อมลงพระปรมาภิไธยย่อ
3 มี.ค.60 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสมพร ฉิมพารี อายุ 73 ปี บ้านเลขที่ 37/10 ม.1 ต.จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง ว่า มีชาวบ้านที่ไปหาปลาไปพบกับมณฑปเก่าที่เดิมใช้คลุมศิลาจารึกพระปรมาภิไธยย่อ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ถูกทิ้งอยู่ในคลองอยู่ลึกจากถนนเพชรเกษมประมาณ 20 เมตร ในพื้นที่ ม.1 ต.จปร. ห่างจากที่ตั้งจุดศิลาจึกแห่งใหม่ประมาณ 1 กิโลเมตร จึงได้ตามไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึง นายสมพร ได้พาดูยังจุดที่พบซึ่ง นายสมพร อายุมากไม่สามารถลงไปได้เนื่องจากเป็นทางลาดชัน ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงไปเพื่อเก็บภาพว่าเป็นจริงหรือไม่ เมื่อลงไปพบแผ่นปูนเก่าจำนวน 2 ชิ้นเป็นลักษณะสี่เหลี่ยม และเสาปูอีกจำนวนหนึ่งต้น ที่ผ่านปูนมีลักษณะคล้ายรูปดอกบัว ส่วนอีกชิ้นยังคงถูกฝังอยู่ในดินมีให้เห็นร่องรอยเพียงบางส่วน
นายสมพร เล่าให้ฟังว่า เดิมทีก็ไม่มีใครพบจนกระทั่งก่อนหน้านี้เกิดฝนตกน้ำมีมากจนพัดพาดินบางส่วนออกไป เมื่อเพื่อนของตนเองออกไปหาปลาจึงพบแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรจึงมาหาตนเองชวนไปดูด้วยกัน เมื่อเห็นและถ่ายภาพเก็บไว้ พร้อมนำไปสอบถามกับคนที่รู้จึงทราบว่า เป็นมณฑปเก่าที่ใช้คลุมพระปรมาภิไธยย่อรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จประพาส จ.ระนอง ซึ่งใครผ่านไปมาจะเป็นที่สักการะเพราะตั้งอยู่ริมถนนในจุดเดิมที่มีการก่อสร้างก่อสร้างโรงคลุมจุดศิลาจารึกพระปรมาภิไธยย่อ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2502 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จฯ เยือน จ.ระนอง พร้อมลงปรมาภิไธยย่อ ภปร ที่จุดดังกล่าวใกล้กับของรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีภาพถ่ายของมณฑปที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประทับด้วย
ต่อมามีการสร้างโรงคลุมใหม่เพื่อเก็บรักษาหินสลักที่มีพระปรมาภิไธยย่อ ทั้งรัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระเทพฯ แต่ตนเองจำไม่ได้ว่า พ.ศ. อะไรกำลังหาข้อมูลอยู่ แล้วมณฑปของเก่าก็หายไปโดยไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหน จนกระทั่งมาพบในเวลานี้ ตนเองจึงอยากจะวอนขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมศิลปากรในเข้ามาตรวจสอบและนำมณฑปขึ้นจากน้ำไปเก็บรักษาเพราะเป็นสิ่งล้ำค่า ควรเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา อีกทั้งตนเองคิดว่าเป็นของสูงเพราะเป็นของพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงอยากให้เข้ามาตรวจสอบและเก็บรักษาโดยด่วนก่อนที่จะหายไปหรือได้รับความเสียหายจากธรรมชาติหรือเสียจากการก่อสร้างถนนที่กำลังใกล้เข้ามาในจุดดังกล่าว เพราะการก่อสร้างถนนต้องถมดินเป็นจำนวนมาก กลัวว่ามณฑปดังกล่าวจะถูกฝังไปด้วยซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย