จากกรณีของสามเณรปลื้ม ที่ถูกคนร้ายสังหาร แล้วนำศพไปฝังโบกปูนทับ ใต้ฐานพระพุทธรูปในวัดวังตะวันตก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ด้าน ตำรวจจัดชุดคุ้มครองพยาน หลังมีคนสะกดรอยตาม พร้อมเข้าตรวจสอบทรัพย์สิน และวัตถุโบราณภายในกุฏิอดีตเจ้าอาวาสวัดวังตะวันตกแล้ว ยืนยัน ยังมีทรัพย์สินอยู่ เตรียมขึ้นทะเบียนวัตถุโบราณทั้งหมด
พระครูพรหมเขตคณารักษ์ เจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก นำคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบทรัพย์สิน และวัตถุโบราณบนกุฏิอดีตเจ้าอาวาส โดยได้เรียกช่างมาตัดกุญแจที่ถูกปิดกั้นทางขึ้น และเดินขึ้นไปบนชั้น2 ของกุฏิ ซึ่งไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวตามขึ้นไปบันทึกภาพการตรวจสอบทรัพย์สิน
จากการตรวจสอบ พบว่า บริเวณห้องใต้หลังคาบนกุฏิมีนกนางแอ่นทำรังอยู่ จำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกระบุว่ารังนกเป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้ของวัดที่อยู่ในการควบคุมของนางสาวปิยฉัตร อรุณสกุล นอกจากนี้ ยังพบว่า มีงาช้างแกะสลักศิลปะแบบจีนอายุหลายร้อยปียังอยู่ พร้อมกับตะบันหมากของพระครูกาชาด อดีตพระเถราจารย์รูปสำคัญของเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อกว่า 100 ปีก่อน รวมทั้งมีพระพุทธรูปโบราณ และเครื่องถ้วยโบราณอีกหลายรายการ แต่ไม่ยืนยันว่าอยู่ครบหรือไม่ เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าของเดิมนั้นมีอยู่มากน้อยแค่ไหน
ด้าน พระครูพรหมเขตคณารักษ์ ระบุว่า จะร่วมกับสำนักพระพุทธศาสนา จังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินการบันทึกภาพ และจัดทำทะเบียนให้ถูกต้อง จากการสังเกตด้วยสายตา น่าเชื่อว่ายังไม่มีการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินวัตถุโบราณ และรังนกนางแอ่นที่มีจำนวนมากเหล่านี้ จึงสามารถที่จะนำมาเป็นรายได้ในการฟื้นฟูทำนุบำรุงวัดวังตะวันตก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นบ้านอีกหลังของนางสาวปิยฉัตร หรือบิว ในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งความคืบหน้าทางทีมข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป
ขณะที่ พลตำรวจตรีวันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ พันตำรวจเอกรังสรรค์ สุขเกื้อ ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช และพันตำรวจเอกอดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช จัดกำลังคุ้มครองพยานปากสำคัญในคดีนี้ โดยเฉพาะพยานที่เป็นอดีตพระภิกษุ ที่บวชและจำวัดอยู่ในวัดที่เกิดเหตุ พร้อมกับอดีตพระเด่นชัย หรือนายเด่นชัย ภูมินิยม สามีของนางสาวปิยฉัตร หรือบิว อรุณสกุล ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญที่สุดของคดี หลังมีข้อมูลว่า มีบุคคลลึกลับคอยสะกดรอยติดตามพยานปากนี้ พยานหวั่นเกรงว่า จะไม่ปลอดภัยในชีวิต
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อาจจะกันบุคคลที่มีส่วนร่วมในการกระทำผิดปลายเหตุ อาทิ ผู้ที่ทำความสะอาดที่เกิดเหตุ ตามคำสั่งของผู้ต้องหามาเป็นพยานทางคดี แทนการดำเนินคดี หรือขออนุมัติออกหมายจับเป็นผู้ต้องหา เนื่องจากสำนวนการสอบสวนยังขาดการเชื่อมโยง หรือความเชื่อมโยงในบางช่วงบางตอน
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีฆาตกรรมสามเณรปลื้ม ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทางคดี มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเชิญผู้ประกอบการที่เช่าอาคารพาณิชย์ของวัด เช่าที่ดินวัด เปิดแผงพระในเขตวัด มาให้ข้อมูลกับตำรวจ