ตำรวจคุมตัว “ใหญ่ กุยบุรี” ทำแผนนาทีกระหน่ำยิงยกครัว 3 ศพแล้วเผา เผยเรียกให้เปิดประตูแล้วยิงน้าชายหมดแม็ก ก่อนตามไปยิงน้าสะใภ้ที่กอดลูกน้อยไว้ กระสุนทะลุไปถูกเด็กตายตามแม่ ก่อนเผาอำพราง ท่ามกลางประชาชนตะโกนสาปแช่ง
ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง เกือบ 300 คน ที่ทราบข่าวการทำแผนฆ่ายกครัว 3 ศพแล้วเผาอำพรางคดี มารอดูเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้า ทำให้ต้องจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และกู้ภัย มาอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันการรุมประชาทัณฑ์ ก่อนนำตัวนายนิพนธ์ ช้างแก้ว หรือใหญ่ กุยบุรี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดย พลตำรวจเอก สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ.10 ได้เข้าพูดคุยทำความเข้าใจกับญาติของผู้เสียชีวิตที่รออยู่ตั้งแต่เช้า เพื่อขอไม่ให้ก่อเหตุทำร้ายผู้ต้องหา ก่อนนำตัวนายใหญ่ ลงจากรถตู้ ระหว่างการนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ได้มีชาวบ้านที่มามุงดูต่างตะโกนสาปแช่งนายใหญ่ ที่ใจคอโหดเหี้ยมฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กวับขวบเศษ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ขอให้ประหารชีวิต ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวนายใหญ่ออกจากที่เกิดเหตุทันทีหลังจากที่ทำแผนเสร็จสิ้น
สำหรับนายใหญ่ ได้อธิบายขั้นตอนการก่อเหตุว่า ในช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ได้เดินมาเรียกนายสำราญ เพชรประดับ เจ้าของบ้าน แล้วสอบถามว่า นายสำราญ เป็นคนแจ้งตำรวจมาจับตนหรือไม่ ก่อนที่นายใหญ่ จะหยิบปืนขนาด 11 มม. ที่เตรียมมาจ่อยิงนายสำราญ จนเสียชีวิต จากนั้นจึงเข้าไปในบ้าน พบนางสาวรุ้งทิพย์ สายทอง กอดประคองลูกน้อยไว้ในอ้อมกอด นายใหญ่จึงยิงนางสาวรุ้งทิพย์ จากด้านหลังหลายนัด จนกระสุนทะลุผ่านร่างของนางสาวรุ้งทิพย์ ไปโดนลูกสาวจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุ นายใหญ่ ได้นำน้ำมันมาราดร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ก่อนจุดไฟเผา และยืนดูผลงานบริเวณหน้าบ้าน จนแน่ใจว่า เพลิงเผาบ้านทั้งหลัง ก่อนจะขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป และนำปืนที่ใช้ก่อเหตุไปซ่อนไว้ในท่อระบายน้ำในบ่อน้ำของนายประยูร เพชรประดับ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุ แล้วก็หลบหนีไป จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 คน คือ นายใหญ่ และนายประยูร เพชรประดับ ซึ่งเป็นญาติของผู้ตาย ในข้อหาช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ซ่อนเร้น เอาไปเสียซึ่งเป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิด โดยสาเหตุที่ผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุ เพราะโกรธแค้นเนื่องจากเข้าใจว่า นายสำราญเป็นคนแจ้งตำรวจมาจับตนในข้อหามียาบ้าจำนวน 6 เม็ด และมีอาวุธปืน ก่อนที่จะส่งตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อไป