ออกอาละวาด! หัวขโมยย่องรื้อค้นขโมยของมีค่าในเต็นท์ที่พักของนักท่องเที่ยว บริเวณจุดชมวิว ตำรวจเตือนให้ระวัง
เต็นท์ของนักท่องเที่ยวที่ถูกหัวขโมยแอบมาขโมยของมีค่าในเต็นท์นอน ขณะที่กำลังหลับ บริเวณจุดชมวิวเทศบาลตำบลวังกะ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนที่จะโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
โดยผู้เสียหายกว่า 20 คน ให้การกว่า ได้เดินทางมาจากจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเลือกมาพักบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นที่นักท่องเที่ยวรู้จัก และนิยมมาพักกางเต็นท์ เนื่องจากอยู่ริมน้ำติดสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ สถานที่กว้างขวาง และเป็นของทางราชการที่เปิดให้มาพักฟรี จึงเลือกกางเต็นท์พักบริเวณด้านบนใกล้ห้องน้ำ และมีไฟส่องสว่าง โดยกางเต็นท์ทั้งหมด 9 หลัง จากนั้นได้ทำอาหารกิน และสังสรรค์กันแล้ว ก็เข้าพักผ่อน เพื่อจะเดินทางไปตักบาตรในชุมชนมอญ และท่องเที่ยวต่อในวันรุ่งขึ้น กระทั่งเวลา 03.40 น. นางสาว อรัญญา สุขสุจิตร ตื่นขึ้นมาเนื่องจากได้ยินเสียงคนเดินไปมา และพูดคุย ก่อนพบว่าประตูเต็นท์นอนของตนเองถูกเปิดไว้ และกระเป๋าสตางค์ พร้อมโทรศัพท์ยี่ห้อoppo ของตน และสามีมูลค่ากว่า 2 หมื่นบาทได้หายไป ส่วนกระเป๋าถูกวางไว้หน้าเต็นท์นอน โดยมีร่องรอยการรื้อค้น นอกจากนี้ คนร้ายได้นำเงินสด 1,800 ไปด้วย ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ตินนาวร เปิดเผยว่า ตนเองก็โดนขโมยกระเป๋าสตางค์ ซึ่งข้างในมีเงินสด 5,000 บาท เพื่อใช้จ่ายในการท่องเที่ยวสังขละบุรีเช่นกัน
ด้าน ร้อยตำรวจโท ธนศักดิ์ โอภาส รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี เปิดเผยว่า บริเวณดังกล่าว มักมีเหตุลักทรัพย์นักท่องเที่ยวในช่วงที่นักท่องเที่ยวหลับหลายครั้ง และยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ เนื่องจากเป็นสถานที่เปิด สามารถเดินทางมาทั้งทางรถยนต์และทางเรือ อีกทั้งช่วงเกิดเหตุไม่มี รปภ.ดูแลความปลอดภัยในบริเวณนี้ ซึ่งในช่วงวันหยุด จะมีนักท่องเที่ยวมาพัก ทางตำรวจสายตรวจก็จะมาประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวระวัง และดูแลทรัพย์สิน โดยเวียนมาตรวจตอนดึก แต่หัวขโมยก็ยังลงมือขโมยของได้อีก
ทั้งนี้ จึงได้ประสานให้ทางเทศบาลตำบลวังกะ ติดกล้องวงจรปิดในพื้นที่ และจัดเวรยามช่วยดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดที่มีนักท่องเที่ยวมาเข้าพัก เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายทั้งหมด ได้เข้าแจ้งความ เพื่อให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายที่ยังลอยนวลมาดำเนินคดี หากปล่อยไว้อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองสังขละบุรีได้
