อาการทรงตัว! “หมวดผึ้ง” อาการดีขึ้นไม่ต้องผ่าตัดสมอง ย้ายรักษา กทม.

อาการทรงตัว! “หมวดผึ้ง” แพทย์ระบุไม่ต้องผ่าตัดสมอง รอฟื้นตัวดีขึ้น ย้ายขึ้นเฮลิคอปเตอร์รักษาตัวที่กรุงเทพฯ ส่วนคู่กรณีเสียชีวิต สั่งดูแลพร้อมช่วยเหลือทุกอย่างเต็มที่ หลังประสบอุบัติเหตุขับบิ๊กไบค์ชนกับรถจักรยานยนต์อีกคัน

จากกรณี ร้อยตำรวจโท หญิง วันวิสา ธีรปัญญาชัย หรือ “หมวดผึ้ง” รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ1 กองบังคับการอำนวยการ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปัจจุบันช่วยราชการสำนักงานผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว อาจจะไม่ต้องถึงขั้นผ่าตัดสมอง สามารถรักษาอาการเลือดคั่งในสมองทางยาได้ โดยจะย้ายหมวดผึ้งไปอยู่ในห้องพิเศษเพื่อการดูแลที่ใกล้ชิด แต่แพทย์ยังไม่อยากให้เคลื่อนย้ายเวลานี้ ถ้าจะต้องเคลื่อนย้ายก็จะต้องใช้เฮลิคอปเตอร์หรือเครื่องบินเท่านั้น ซึ่งจะปลอดภัยที่สุด เนื่องจากเป็นอาการทางสมองต้องให้อยู่นิ่งๆ มากที่สุด จนกว่าอาการเลือดคั่งจะทุเลาลง ส่วนบาดแผลอย่างอื่น มีเพียงที่บริเวณหน้าผากเล็กน้อยเท่านั้น นอกนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางโรงพยาบาลรักษาอาการของหมวดผึ้งอย่างเต็มที่ สรุปได้ว่าในขณะนี้อาการพ้นขีดอันตราย แต่ยังทรงตัวอยู่ ต้องรอดูอาการอีกสักระยะ เมื่ออาการดีขึ้น ก็จะสามารถเคลื่อนย้ายไปรักษาตัวในกรุงเทพฯ ได้ คาดว่าทางญาติพี่น้องหรือคนใกล้ชิดของหมวดผึ้งก็คงจะปรึกษาแพทย์อีกครั้งหนึ่ง

ภายหลังเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า สังคมเอาแต่สนใจหมวดผึ้ง ไม่สนใจผู้เสียชีวิต ในขณะนี้ทาง นายณรงค์ พลละเอียด ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้มอบหมายให้นายอำเภอท่าแซะ เดินทางไปดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการจัดงานศพ ทางราชการจะช่วยเหลือดูแล ถ้าเป็นคนยากจน ก็จะมีมาตรการสงเคราะห์ในการจัดงานศพอยู่แล้ว ไม่ได้ทอดทิ้งตามที่มีกระแสสังคมในโซเชียลแต่อย่างใด เรื่องอย่างนี้ทางจังหวัดให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตลอดทุกรายที่ทราบเรื่องและให้ความช่วยเหลือคนยากจน อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นใคร

ขณะที่บ้านของนายประจักษ์ ในอำเภอท่าแซะ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลนั้น นางจวน พรหมบังเกิด ภรรยาของผู้ตาย รวมทั้งลูกหลานและญาติยังอยู่ในอาการเศร้าโศก โดยนายกรณัขสิทธิ์ พรหมบังเกิด ลูกชายผู้ตาย กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ปลัดอำเภอท่าแซะ เดินทางมาเยี่ยม และสอบถามเรื่องการจัดงานศพ พร้อมทั้งบอกว่าจะนำไปรายงานนายอำเภอ เพื่อให้ทางจังหวัดเข้ามาช่วยเหลือ ส่วนทางด้านคดี ทางพลตำรวตตรี สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ได้ลงไปดูแลให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายแล้ว ซึ่งต้องว่าไปตามแผนที่เกิดเหตุที่ตำรวจภูธรท่าแซะ ได้บันทึกไว้ ส่วนใครจะผิดจะถูก ก็ต้องว่าไปตามรูปคดี ขอให้มั่นใจว่า ทั้งผู้เสียหาย ผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ตาย จะได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ยังวิกฤต! “หมวดผึ้ง”สาหัสควบบิ๊กไบค์ชน จยย.คู่กรณีดับ