ตำรวจสภ.กุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ตามรวบโจ๋วัย 17 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าโหดหลวงพี่
จากกรณีคนร้ายฆ่าโหดพระสุรนาถ ยิ่งดี หรือหลวงพี่เฟส อายุ 35 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าภูหินกอง ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิตในกุฏิวัด ซึ่งพบบาดแผลถูกฟันแทงตามร่างกาย และใบหน้าคล้ายถูกมีดกรีด โดยหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ นำโดย พ.ต.อ.ประสิทธิ์ จำปาทุม ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมพุ่งเป้าไปที่สาเหตุฆ่าชิงทรัพย์ เนื่องทรัพย์ในกุฏิถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ท่ามกลางความสะเทือนใจของญาติและประชาชนในพื้นที่
กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.กุฉินารายณ์ได้ติดตามตัวนายแม็ก (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พร้อมนำตัวมาสอบสวน โดยมีพล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 และพล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เดินทางมาสอบปากคำ ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหายังแบ่งรับแบ่งสู้ และให้การวกวน กระทั่งมีการเค้นสอบจนรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าจริง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2560 พ.ต.ต.วิชิต วรรณพฤกษ์ พนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ เจ้าของคดี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจนำตัวนายแม็ก (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี เข้ามาสอบปากคำที่สำนักงานอัยการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางมีดปลายแหลมยาวกว่า 30 ซม.ที่ใช้ก่อเหตุ โดยในการสอบปากคำมีพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ ที่ปรึกษากฎหมายหรือทนายความ บุคคลที่เด็กไว้วางใจหรือผู้ปกครองร่วมสอบหากคำ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเด็กอายุ 17 ปี ก่อนที่จะนำตัวส่งไปยังสถานพินิจ จ.กาฬสินธุ์ โดยแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะคดีนี้มีผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.กุฉินารายณ์ นำกำลังบุกไปควบคุมตัว นายแม็ก (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีพยานหลายปากยืนยันว่าเห็น นายแม็ก อยู่ในกุฏิกับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย และจากการตรวจสอบยังพบว่าประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด และเป็นลูกศิษย์ของพระสุรนาถ นอกจากนี้ยังทราบว่ามักจะเข้ามาขอเงินและข่มขู่พระสุรนาถบ่อยครั้ง จึงคุมตัวมาเค้นสอบ จนผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นคงลงมือฆ่าพระสุรนาถจริง
โดยนายแม็ก รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้เข้าไปในกฏิ และขอเงินพระสุรนาถ แต่พระไม่ให้ ประกอบกับได้ทะเลาะกันเรื่องส่วนตัว จึงเกิดการลงไม้ลงมือกัน ก่อนที่จะนำเอามีดที่พกติดตัวมาแทงและฟันที่ร่างกายพระสุรนาถหลายครั้งจนล้มลง แต่ไม่ได้กรีดหน้า ซึ่งมีดอาจจะฟันไปถูกใบหน้าก็ได้ จากนั้นได้นำเงินสดผู้ตายไปด้วย 40 บาท และโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย 2 เครื่องไปขายได้เงิน 600 บาท พร้อมนำมีดไปทิ้งไว้ในป่าข้างวัด และเข้าไปหลบหนีไปอยู่ที่รีสอร์ทก่อนจะถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว
