วันจันทร์ ที่ 7 พฤษภาคม 2561 เมื่อเวลา 11.00 น. น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือ น้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมุนษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) บุคคลที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จนนำมาสู่การตรวจสอบของคสช.และ ป.ป.ท.จนพบมูลความผิด และมีการขยายการสอบสวนในโครงการดังกล่าวไปยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศกว่า 60 จังหวัดทั่วประเทศ
ล่าสุด น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือ น้องแบม เข้ายื่นหนังสื่อต่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีนายสาธิต สุทธิเสริม หัวหน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือ ทั้งนี้นางสาวปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม ตกเป็นผู้เสียหายถูกหลอกสูญเงินจำนวน 50,000 บาทจากการเข้าไปเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ตรีชฎา ซึ่งเป็นสินค้าในเครือบริษัทเมจิก สกิน รวมทั้งผู้เสียหายอีก 100 ราย เข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์บริการประชาชน ซึ่งมีมูลค่าหลายล้านบาท
ในข้อร้องเรียนของน้องแบมระบุว่าสินค้าแบรนด์ตรีชฎามีพฤติกรรมฉ้อโกงประชาชนเริ่มแรกให้สมาชิกสมัครเป็นตัวแทนหลักและมีระบบการขายแบบไม่เหมือนใคร จากตัวแทนหลักเลยเลื่อนตำแหน่งเป็น วีไอพี สต็อกของ 1,000 ซอง ล็อตแรกราคาทั้งหมด 29,000 บาท คิดว่าระบบแบบนี้จะสามารถทำให้เรารวยและเลี้ยงพ่อแม่ได้ และมีเงินเก็บหลักแสนก่อนเรียนจบ จึงนำทองที่ซื้อมาโดยเงินเก็บของตัวเองทั้งหมดไปจำนำ และขอเงินแม่อีก 10,000 บาท เพื่อลงทุน เพราะความเชื่อใจเจ้าของแบรนด์ จากนั้นล็อต 2 ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นซุปเปอร์วีไอพี 5,000 ซอง ต้องหาเงินจำนวน 130,000 บาท มาจ่ายกับแม่ทีม ตอนนั้นยังไม่ย้ายทีมได้นำเงินของตัวเองและตัวแทนไปจ่ายให้กับแม่ทีมใหญ่ ล็อต 3 เลื่อนตำแหน่งเป็นดิลเลอร์ 15,000 ซอง หาเงิน 315,000 บาท จ่ายให้กับแม่ทีม
ซึ่งตนเองคิดว่ามันไม่ไหว ถ้าไม่เลื่อนตำแหน่งก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นระบบ แต่ล็อต 4 (ย้ายทีมแล้ว) ต้องสั่งเพียง 7,000 ซอง เนื่องจากเจ้าของแบรนด์ปรับขึ้นราคาและจำนวนสต็อกของในแต่ละตำแหน่ง ดิลเลอร์ต้องสต็อกอย่างน้อย 50,000 ซอง จำนวนเงินที่จ่ายเป็นล้าน และคิดว่า ยิ่งขายยิ่งไม่ได้กำไร เพราะจ่ายเงินไป ไม่มีของมาขาย เนื่องจากของมาช้า ทำให้หมุนเงินไม่ได้จึงไม่ได้ไปไถ่ทองออกจากโรงรับจำนำ และคิดจะเลิกขายหลังจากจบล็อต 4
พอข่าวออกจึงทำให้เหลือสินค้าในสต็อก 1,240 ซอง รวมของตัวแทนทั้งหมด และยุติการขายทันที ดำเนินการจัดการสินค้าและปรึกษากับแม่ทีมใหญ่ตลอดมา“
ทั้งนี้เรื่องระบบการขายคนใหม่จะเลื่อนตำแหน่งไม่ได้ ต้องให้คนเก่าได้เลื่อนตำแหน่ง และห้ามขายให้กับลูกทีมของตัวเองที่มีตำแหน่งดียวกัน“
ในโอกาสนี้จึงใคร่ขอความเมตตาจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้โปรดดำเนินการคืนความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย ให้ผู้เสียหายจากแบรนด์ของเมจิกสกิน อีกราว1,000 คน รวมทั้งเร่งรัดการยึดทรัพย์และนำมาเยียวยาผู้เสียหายต่อไป