กลับมาอีกครั้งแล้วค่ะ กับเทศกาลที่คอบอลทั่วโลกต่างรอคอย กับ World Cup 2018 (ฟุตบอลโลก2018) ที่ปีนี้จัดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งจะเริ่มคิ้กออฟนัดแรก ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ อ่านเพิ่มเติม โปรแกรมบอลโลก รัสเซีย – ซาอุฯ วิเคราะห์บอลโลก 2018 พรีวิว 14 มิ.ย. 61
ก่อนที่จะไปติดตามการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2018 ทีมข่าวไบรท์นิวส์ออนไลน์ ขอรวบรวมเกร็ดน่ารู้ ที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้เกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลโลก มาให้ได้อ่านกัน รับรองว่าสาวๆอ่านแล้ว เอาไปอวดแฟนได้ รับรองคุณแฟนจะต้องร้องว้าว
1.ผลงานสุดพีก บอลไทยไปบอลโลก
ประเดิมกันที่ผลงานของทีมนักเตะไทย ที่สามารถทำผลงานเข้าใกล้คำว่าฟุตบอลโลกมากที่สุด ขอย้อนกลับไปในปี 2002 ที่ เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพ ในปีนั้นนักเตะทีมชาติไทย เข้าสู่รอบคัดเลือกรอบที่ 2 เป็นครั้งแรก แต่สุดท้ายไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายได้ โดยรอบแรก ไทยอยู่ กลุ่ม5 ร่วมกับ เลบานอน ปากีสถาน และศรีลังกา
ผลการแข่งขัน ทีมชาติไทยเป็นที่1ของสาย ผ่านเข้าสู่รอบ10ทีมสุดท้ายโซนเอเชียเป็นครั้งแรก ไปสู้กับทีมสายแข็งอย่าง ซาอุดิอารเบีย อิหร่าน อิรัก บาห์เรน และ ทีมไทยทำได้ดีที่สุดคือเสมอ 2 นัด และแพ้ 2 นัด เป็นอันดับสุดท้ายของกลุ่ม พลาดไปสนามบอลโลกในที่สุด
2. ชาติที่ได้ครองตำแหน่งแชมป์บอลโลกมากที่สุด
ทีมชาติบราซิล ครองแชมป์ได้มากที่สุดถึง 5 สมัย ตามมาด้วยเยอรมันนี และ อิตาลีที่ได้แชมป์ 4 สมัยเท่ากัน
ทีมชาติจาก ฮังการี สามารถทำสถิติยิงประตูสูงที่สุด 27 ประตูตลอดการแข่งขันเวิร์ลคัพ 1954 แต่จำนวน 27 ประตูที่ทำได้ตลอดทัวนาร์เม้นก็ไม่ทำให้ ฮังการีได้ครองตำแหน่งผู้ชนะแต่อย่างใด เพราะพ่ายแพ้ให้กับเยอรมันตะวันตก ในรอบชิงชนะเลิศ
4. นักเตะที่ทำประตูรวมได้มากที่สุดในการแข่งขัน World Cup
Miroslav Klose นักเตะจากทีมชาติเยอรมันนี สามารถยิงประตูได้ทั้งหมด 16 ประตู จากการเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกทั้งหมด 4 ครั้ง ในปี 2002, 2006, 2010, 2014 และในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2006 เค้ายังได้รับรางวัล Golden Boot นักเตะที่สามารถทำประตูได้มากที่สุดในทัวร์นาเม้นท์อีกด้วย ในปัจจุบันเค้าผันตัวเองมาเป็นโค้ช สต๊าฟ ให้กับทีมชาติเยอรมันนี
5. ทีมชาติที่ครองแชมป์ 2 สมัยติดกัน
ทีมชาติอิตาลี และ บราซิล เป็นทีมที่สามารถครองแชมป์ได้2สมัยติดกัน นั่นก็คือ อิตาลี ในฟุตบอลโลกปี 1934 และ 1938 และ บราซิล ในปี 1958 และ 1962
นอกจากอิตาลีจะได้ครองถ้วยรางวัล2สมัยติดกันแล้ว ในทางเทคนิค อิตาลีถือเป็นชาติที่ได้ครอบครองถ้วยรางวัลไว้นานที่สุดถึง 16 ปีติดกัน เนื่องมาจากหลังจากการแข่งขันในปี 1938 นั้น ได้งดจัดการแข่งขันไป 2ครั้งติด เนื่องจากอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนสามารถกลับมาจัดการแข่งขันใหม่ได้อีกครั้งในปี1950 ที่บราซิล
6. รู้หรือไม่ถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะนั้น ไม่ได้มีแค่ถ้วยฟีฟ่า
ในประวัติศาสตร์การแข่งขันฟุตบอลโลก ถ้วยรางวัลสำหรับทีมที่ชนะ มี2ตัวที่ถูกนำมาใช้ ตัวแรกคือ Jules Rimet Trophy ใช้ตั้งแต่การแข่งขันครั้งแรกในปี 1930 จนถึงปี 1970 จากนั้น ก็เป็นตัวที่ 2 ที่พวกเราคุ้นเคยกันดีในปัจจุบัน นั่นก็คือ FIFA World cup Trophy ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 1974 จนถึงปัจจุบัน
7. ถ้วยรางวัลหายสาบสูญ
ในปี 1983 ถ้วยรางวัลตัวแรก Jules Rimet Trophy ถูกขโมยไปหลังจากที่ปลดระวางตั้งแต่ปี 1970 ชาติที่ครอบครองถ้วยนี้ชาติสุดท้ายคือบราซิล ซึ่งก่อนหน้านี้ถ้วยรางวัลนี้ก็ถูกขโมยไปถึงสองครั้ง แต่ก็สามารถที่จะตามเอากลับมาได้ แต่การสูญหายไปในครั้งที่ 3 นั้น เกิดขึ้นในปี 1983 ซึ่งในขณะนั้นถ้วยรางวัล Jules Rimet Trophy ถูกเก็บรักษาไว้ที่อาคาร Brazilian Football Confederation มีคนบุกเข้ามาขโมยถ้วยไป และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครเคยเห็นมันอีกเลย
8. ขนาด และ ราคาประเมินของถ้วยฟีฟ่า
ถ้วยรางวัลฟีฟ่าที่ใช้ในปัจจุบันทำจาก ทอง 18 กะรัต ตัวฐานเป็นมาลาไคต์ ความสูง 36.5 เซนติเมตร น้ำหนัก 6.175 กิโลกรัม เป็นรูปสองมือที่กำลังถือลูกโลกอยู่ มีการประเมินมูลค่าคร่าวๆของถ้วยฟีฟ่า น่าจะมีมูลค่าสูงถึง 350 ล้านบาท
9. ใต้ฐานถ้วยฟีฟ่ามีอะไร
ใต้ฐานของถ้วยฟีฟ่า จะมีป้ายที่แกะสลักชื่อแชมป์ในแต่สมัยเอาไว้เริ่มต้นชื่อแรกในปี 1974 คือdeutschland (เยอรมันนีตะวันตก) และคาดการณ์ว่าในปี 2038 พื้นที่จะเต็ม ไม่สามารถใส่ไปเพิ่มได้อีก
10. มาสคอตฟุตบอลโลกตัวแรก
ตัวมาสคอตประจำการแข่งขันฟุตบอลโลกนั้น ไม่ได้มีมาตั้งแต่การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรก แต่เพิ่งจะมามีในปี 1966 กับ ฟุตบอลโลกครั้งที่ 8 ที่ อังกฤษ เป็นเจ้าภาพ ซึ่งมาสคอตตัวแรกที่ถือกำเนิดมาในการแข่งขันนั้น เป็นสิงโตชื่อ Willie ออกแบบโดย Reg Hoye ซึ่งสิงโต แสดงถึงสัญลักษณ์ของสหราชอาณาจักรนั่นเอง
