ลิเวอร์พูลอุตส่าห์นำก่อนจากการฟาดของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ แต่ดันมาเสีย 2 ประตูช่วง 6 นาทีโดยเฉพาะการกระชากไปยิงของ เอเด็น อาซาร์ ก่อนหมดเวลา 5 นาทีทำให้เชลซีแซงชนะระทึก 2-1 ผ่านเข้ารอบ 4 คาราบาว คัพ
https://www.youtube.com/watch?v=MRpt1lk9Ypc
เริ่มเกมมาเป็น เชลซี ที่ครองเกมได้ดีกว่าเล็กน้อย ก่อนมีโอกาสลุ้นประตูจากฟรีคิกของ วิลเลียน ในนาทีที่ 8 แต่บอลข้ามคานไป
นาทีที่ 18 ยังเป็นเชลซีที่มีลุ้นประตู เมื่อ โมราต้า รับบอลโยนจาก ฟาเบรกาส ก่อนหลุดเข้าไปยิงแต่ก็ยังไปติดเซฟของ มิโญเล่ต์ ต่อมาเขาพยายามยิงซ้ำแต่ก็ยังไม่เข้าประตู
เกมผ่านไป 30 นาที ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0
นาทีที่ 37 เป็นเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล มีโอกาสลุ้นบ้างจากการยิงนอกกรอบเขตโทษของ นาบี เกอิต้า แต่ไปติดเซฟของ กาบาเยโร่
เวลาที่เหลือในครึ่งแรกทั้งสองทีมยังไม่สามารถยิงประตูกันได้ ทำให้หมดครึ่งเวลาแรกแบบไร้สกอร์
ครึ่งหลังเริ่มเกมมาได้เพียง 1 นาที คริสเตนเซ่น จ่ายบอลคืนหลังพลาด โดน สเตอร์ริดจ์ ฉกเข้าไปล็อคหลบ กาบาเยโร่ แต่ดาวเตะชาวอังกฤากลับยิงออกอย่างไม่น่าเชื่อ
นาที 47 วิลเลี่ยน เปิดบอลให้ โมราต้า ขึ้นโหม่งแบบระยะเผาขน แต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 52 บาร์คลีย์ โหม่งบอลคืนหลังพลาด บอลไปเข้าทาง มาเน่ หลุดเข้าไปยิงแต่ติดเซฟของ กาบาเยโร่
นาทีที่ 56 เชลซี ใส่ทีเด็ด ส่ง อาซาร์ ลงสนาม แทน วิลเลี่ยน
นาทีที่ 59 เจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ เกอิต้า ยิงไปติดเซฟของ กาบาเยโร่ แต่ บอลมาเข้าทาง สเตอร์ริดจ์ ฮาร์ฟวอลเลย์เข้าไป ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0
นาที 64 เชลซีเปลี่ยนผู้เล่นคนที่สอง ส่ง เอ็นโกโล ก็องเต้ ลงสนามแนน โควาซิช
นาทีที่ 70 ลิเวอร์พูล เปลี่ยนเอา โรเบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ลงแดน ซาดิโอ มาเน่
นาที 73 เชลซี เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้าย ส่ง ดาวิด ลุยซ์ ลงสนามแทน คริสเตนเซ่น
นาที 79 เชลซีได้ประตูตีเสมอจนได้ จากจังหวะที่ อาซาร์ โยนบอลเข้ามาในเขตโทษ และ บาร์คลีย์ กระโดดเทคตัวขึ้นโหม่ง ถูก มิโญเล่ต์ ปัดแต่บอลมาเข้าทาง เอเมอร์สัน ซ้ำจ่อๆ ไม่เหลือให้ทีมเยือนตามตีเสมอได้สำเร็จ
ถัดมาอีกเพียง 6 นาที เชลซี ได้ประตูพลิกขึ้นนำ 2-1 จากความสามารถเฉพาะตัวของ อาซาร์ ก่อนจบเกมนี้ด้วยสกอร์ดังกล่าว