เวลานี้หากให้บอกชื่อกุนซือที่เก้าอี้ร้อนที่สุดในวงการลูกหนัง หลายคนคงนึกถึงชื่อ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือชาวอิตาเลียนของ สิงห์ไฮโซ เชลซี หลังมีผลงานในช่วงหลังที่ย่ำแย่ แถมล่าสุดพาทีมตกรอบ เอฟเอ คัพ
จากผลงานโดน 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์กระซวกไป 8 ประตูภายใน 10 วัน ไบรท์สปอร์ตไม่รอช้านำ 5 สิ่งที่ทำให้ลูกทีมของ ซาร์รี่ มีผลงานที่ตกลงไปในช่วงหลังมาให้อ่านกัน
1.) แท็กติกเดิมๆถูกจับทางได้
เมาริซิโอ ซาร์รี่ เริ่มต้นปีแรกในอังกฤษด้วยผลงานที่ดี เปลี่ยนแปลงสไตล์การเล่นของเชลซีไปจากเดิมเป็นอย่างมาก กุนซือชาวอิตาลีใช้หัวใจของทีมชุดนี้เป็นอดีตเด็กเก่าที่นาโปลีอย่าง จอร์จินโญ คอยบัญชาเกม ทำให้ดาวเตะทีมชาติอิตาลีมีสถิติการจ่ายบอลที่ดีเยี่ยม แต่เมื่อแท็กติกเริ่มถูกจับทางได้จากนักเตะที่เป็นหัวใจกลายเป็นจุดอ่อนของทีม เมื่อจอร์จินโญทำเกมไม่ได้เชลซีก็ไม่น่ากลัวเหมือนเดิม
2.) การแก้เกมของ ซาร์รี่
เชื่อว่าแฟนบอลเชลซีคงทราบดีว่าเชลซีภายใต้การนำของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ เปลี่ยนตัวนักเตะลงสนามในแบบเดิมๆนั่นคือ บาร์คลีย์ สลับ โควาซิช, เปโดร สลับ วิลเลียน, โมราต้า สลับ ชิรูด์ นี่คือ 3 ตำแหน่งที่ซาร์รี่มันจะเปลี่ยนลงสนามในตอนที่ทีมต้องการการเปลี่ยนแปลงจนทำให้กุนซือคู่แข่งรู้ว่า ซาร์รี่ จะทำอะไร และจับทางได้ไม่ยากนัก
3.) ตำแหน่งของ ก็องเต้
หากมองว่า โรนัลโด้ และ เมสซี่ คือนักเตะแห่งยุคในเกมรุก ก็องเต้ ก็คือนักเตะแห่งยุคในเกมรับ เขาถูกเขาถูกยกย่องว่าเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในยุคนี้ แต่การมาของ ซาร์รี่ ที่ต้องการให้ จอร์จินโญ ยืนต่ำคอนคุมเกม ทำให้ต้องดัน ก็องเต้ ไปเร่งรุกมากขึ้นซึ่งนั่นไม่ใช่งานถนัดของเขา ขางครั้งการเล่นเกมรุกของดาวเตะฝรั่งเศสรายนี้ยังดูเก้ๆกังๆอยู่แม้ว่าจะทำได้ดีกว่าเมื่อก่อนแล้วก็ตาม นั่นคือที่มาของคำว่า ใช้งานก็องเต้ ได้ไม่เต็ม 100
4.) อาซาร์ผู้โดดเดี่ยว
ผู้เขียนเคยเข้าไปอยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊กของแฟนบอลเชลซี และสิ่งที่เห็นบ่อยๆคือแฟนสิงห์หลายคนมักพูดเหมือนกันว่า อาซาร์ คือเดอะแบกของทีม ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนักเมื่อไปดูที่สถิติส่วนตัวของปีกเบลเยียมรายนี้ลงสนามไป 34 นัด ยิงไป 15 ประตู และ 10 แอสซิส และยิ่งเมื่อนำไปเทียบกับนักเตะรายอื่น มันก็สะท้อนให้เห็นว่าคำว่าเดอะแบก ก็คงเหมาะกับอาซาร์แล้ว สิ่งนี้แหละทำให้คู่แข่งรู้ว่าต้องประกบให้ อาซาร์ เล่นยากที่สุด เชลซี ก็จะลดความอันตรายลงไป
5.) บารมีของกุนซือ
แน่นอนการเป็นทีมใหญ่ย่อมมีนักเตะระดับสตาร์อยู่ในทีมมากมาย และกุนซือที่จะควบคุมพวกสตาร์เหล่านั้นได้ย่อมต้องมีบารมีที่สูง ยิ่งบวกกับการทำทีมเชลซีแล้วที่จะเห็นว่ากุนซือต้องซื้อใจนักเตะพอสมควรถึงจะทำทีมให้ออกมาดี หลายคนเอาชื่อมาทิ้งไว้ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นกุนซือชื่อเสียงดีอย่าง ฟิลิเป้ สโคลารี่, โชเซ มูรินโญ, อันโตนิโอ คอนเต้, คาร์โล อันเชล็อตติ หรือกุนซือไฟแรงอย่าง อังเดร วิลลาส โบอาส ล้วนแล้วแต่โดนมาแล้วทั้งนั้น ต่างกันสิ้นเชิงกับ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่โปรไฟล์ไม่ได้ดีกว่าคนข้างต้นเลย แถมยังไม่สัมผัสถ้วยแชมป์มาก่อน เพียงแค่พานาโปลีไปอยู่ในหัวตารางเท่านั้นเอง