ชนานันท์ ป้อมบุปผา เรียกเสียงฮือฮาได้ตลอดจริงๆสำหรับ อากิระ นิชิโนะ เฮดโค้ชฟุตบอลชายทีมชาติไทย สายเลือดซามูไร โดยเฉพาะเรื่องการเรียกตัวนักเตะเข้าสู่แคมป์ทีมชาติเพื่อเตรียมทัพช้างศึกเข้าสู่โหมดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022
ล่าสุดเป็นอีกครั้งหลังจากตัดสินใจเรียก ชนานันท์ ป้อมบุปผา เข้ามาเสริมแนวรุกในโผ23 นักเตะ แทนการขาดหายไปของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง ที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวไป หมดสิทธิ์ลงช่วยทีมชาติไทย 2 นัดตามโปรแกรมช่วงเดือน ตุลาคม 2562 ในแมตช์ 10 ตุลาคม 2562 อุ่นเครื่องพบทีมชาติคองโก ตามปฎิทิน ฟีฟ่าเดย์ และ ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก รอบสอง นัดสาม โซนเอเชีย พบทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในวันที่ 15 ตุลาคม 2562
ที่ผ่านมา ชนานันท์ หากย้อนไปในช่วงเก็บตัวทีมชาติไทย เคยมีชื่อเป็นหนึ่งในนักเตะที่ร่วมฝึกซ้อม ทีมชาติไทย ยุคนิชิโนะ ก่อนจะหลุดโผในการประกาศรายชื่อ 23 คนสุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลก 2022 สองนัดแรก พบเวียดนามและ อินโดนีเซีย
ซึ่งในครั้งนั้น อากิระ นิชิโนะ ตัดสินใจเรียกกองหน้าอาชีพคนเดียว คือ ศุภชัย ใจเด็ด ด้วยความเชื่อว่านักเตะไทยทุกคน สามารถยิงประตูได้จากทุกตำแหน่ง ครั้งนั้นการตัดชื่อของ ชนานันท์ ในความเห็นผมมองว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย
เพราะอย่างน้อยๆ น่าจะมีกองหน้าติดไปเพิ่มสักสองราย ไม่ใช่คนเดียว เพื่อกันเหนียวหากกองหน้าเกิดอาการบาดเจ็บหรือติดโทษแบน ขึ้นมา ก็พอจะอุ่นใจได้บ้างว่ายังมีกองหน้าอาชีพจริงๆเหลืออยู่ เพื่อฝากความหวังในแนวรุก
แต่ด้วยสไตล์ของ นิชิโนะ กับแนวทางการทำทีมที่มีความชัดเจน และอยากให้ทุกความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทยเป็นความลับทำให้การคาดเดาเรื่องตัวผู้เล่นเป็นเรื่องยาก เช่นเดียวกับการเรียกตัวของ ชนานันท์ คัมแบ็กคืนสู่ทีมอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงวิจารณ์มากมายจากแฟนบอลไทยบางส่วน ที่ยังสงสัยในเรื่องฝีเท้าของกองหน้ารายนี้ แทนที่จะเรียกนักเตะรายอื่นๆ เข้ามา
อย่างไรก็ดีในความเห็นผม การเรียกตัวชนานันท์ เข้ามาเอาจริงๆในความรู้สึก แทบไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เพราะผมยังมองว่า สิ่งที่นิชิโนะ ควรทำและควรเลือกก็คือนักเตะในแผงมิดฟิลด์มากกว่า
โดยเฉพาะเพลย์เมกเกอร์ ซึ่งถามผมว่าใครเหมาะแต่หากพอจะเอ่ยชื่อและผมมองว่าเป็นตำแหน่งโดยตรงของ ชนาธิป ชื่อของ สุมัญญา ปุริสาย จาการท่าเรือหรือจะปกเกล้า อนันต์ , สรรวัชร์ เดชมิตร ของทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
แต่อย่างที่บอกไปด้วยสไตล์ของ นิชิโนะ ที่เดาใจยาก และแน่นอนว่าเรื่องความรู้ฟุตบอลในฐานะมุมโค้ชที่มีประสบการณ์มากมายไต่ถึงระดับโลกกับทีมชาติญี่ปุ่น ก็คงจะมองเห็นในมุมของเค้าในการเรียกนักเตะเข้ามาฝึกซ้อม และคงมีคู่มือ แผนการเล่นที่จะเลือกใช้งานนักเตะให้ตอบโจทย์เกมนั้นๆในการที่จะเจอคู่แข่งแต่ละเกม
อีกแง่อาจเป็นไปได้ที่ผมมองว่า นิชิโนะ คงมองเห็นจุดเด่นของ ชนานันท์ ที่ร่างกายสูงใหญ่ เล่นลูกกลางอากาศได้ดี ไว้เบียดไว้ชนกับคู่ต่อสู้ชาติจากอาหรับ อย่างสหรัฐอาหรับเอเมิเรตส์ หรือยูเออี ที่นักเตะหลายๆคนต้องยอมรับว่าบิ๊กไซส์ระดับยุโรปก็เป็นได้ หากเป็นในมุมนี้ ผมก็มองว่าการเข้ามาของ ชนานันท์ ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดี
เพราะเอาจริงๆ ผมก็มองว่าการไม่มี ชนาธิป คงจะทำให้ นิชิโนะ ต้องปรับหมากแผนการเล่นในใจพอสมควร ซึ่งหากวิเคราะห์กันตรงนี้ เมื่อไม่เลือกเพลย์เมกเกอร์เข้ามา คนที่เหมาะสมที่สุดเลยที่จะเล่นตำแหน่งนี้
ผมมองว่าน่าจะเป็นธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าประสบการณ์สูงที่พร้อมจะโยกขยับมาเป็นหน้าต่ำ เพื่อใช้ความเก๋าเกม ในการพักบอล จ่ายบอล รวมถึงการยิงประตูที่ยังเป็นอาวุธอันตรายของธีรศิลป์ เป็นทีเด็ด
ส่วน ชนานันท์ ยังต้องลุ้นว่าจะได้ออกสตาร์ทตัวจริงหรือไม่ เพราะดูแล้ว กองหน้าในใจนิชิโนะ อันดับ1 ตอนนี้ ในตำแหน่งหน้าเป้าตัวเลือกก็น่าจะเป็น ศุภชัย ใจเด็ด ที่มีภาษีดีกว่าเพราะเล่นมาแล้วกับ นิชิโนะ ทั้งสองเกมแรกในเกมฟุตบอลโลก 2022 และโชว์ฟอร์มได้ดีทีเดียว
ขณะที่ในรายของ ชนานันท์ การถูกเรียกเข้ามาครั้งนี้ แม้จะเป็นชื่อที่ถูกเรียกเข้ามาแทน แต่ก็เชื่อว่า ชนานันท์ ก็พร้อมจะทุ่มเทเต็มที่ เพื่อโอกาสที่ได้รับมา และพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเองนั้นดีพอและคู่ควรกับสีเสื้อทีมชาติไทย ไม่น้อยกว่าใครเช่นกัน.
คอลัมน์ ล้วงลูกบอลไทย
เขียนโดย ยอดี้
เครดิตภาพเพจ ฟุตบอลทีมชาติไทย
