“ช้างศึก” ทีมชาติไทย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมหลังเอาชนะ “โสมแดง” เกาหลีเหนือ 3-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ
การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ “โสมแดง” เกาหลีเหนือ
เกมนี้ มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย จัดทัพในระบบ 4-2-3-1 กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นผู้รักษาประตูกัปตันทีม กองหลัง 4 คนจากขวาไปซ้าย ประกอบด้วย อดิศร พรหมรักษ์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์ และ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ส่วนแดนกลางคุมเกมวาง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ สองผู้เล่นจากเชียงราย ยูไนเต็ด แนวรุก 3 คนวาง มงคล ทศไกร, สรรวัชญ์ เดชมิตร และ ธีราทร บุญมาทัน สนับสนุน อดิศักดิ์ ไกรษร ล่าตาข่าย
ทางด้าน “โสมแดง” เกาหลีเหนือ ของเฮดโค้ช ยอร์น อันเดอร์เซ่น วางนักเตะคนสำคัญลงสนาม อาทิ จาง กุ๊ก ซอล ,พัค ซอง ซอล, จู ซอง ซอน และ โซ จุง ซอง
ครึ่งแรกทั้งสองทีมเล่นได้อย่างสูสีโดยทางเกาหลีเหนือ มีโอกาสเล่นเกมบุกและมีจังหวะจบสกอร์ที่ดีกว่า ทว่านาทีที่ 40 แฟนบอลทีมชาติไทย ได้เฮลั่นสนามเมื่อเจ้าบ้านเล่นจังหวะเร็ว ธีราทร บุญมาทัน วางบอลเข้ามาหน้ากรอบเขตโทษให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ดีดสั้น ๆ เข้าทาง มงคล ทศไกร กลับตัวสับไกยิงเต็มข้อด้วยขวาตุงตาข่ายให้ไทยนำ 1-0 ก่อนหมดครึ่งแรกที่สกอร์นี้
ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังคงเล่นเกมได้อย่างสูสี โดยทีม “โสมแดง” เกาหลีเหนือ มีโอกาสไล่ทำประตูตีเสมอถึง 2 ครั้งในนาทีที่ 64 ยุน อิล กวาง วางบอลเข้าหน้ากรอบเขตโทษให้ จู ซอง ซอน อัดเต็มข้อบอลหลุดสามเหลี่ยมบนอย่างฉิวเฉียด และนาทีที่ 69 จู ซอง ซอน คนเดิมได้โอกาสยิงในระยะ 25 หลา บอลแฉลบ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ตรงกรอบแต่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ปัดออกไปได้อย่างน่าหวาดเสียว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ทีมชาติไทย ได้โอกาสบุกน้อยแต่จบสกอร์ได้เฉียบคมทำประตูนำห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 78 พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ตบบอลคืนหลังให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ซัดเต็มข้อพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมชาติไทย ได้จุดโทษเมื่อ ธีรเทพ วิโนทัย กองหน้าตัวสำรองจ่ายทะลุช่องให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เข้ากรอบเขตโทษโดน รี เมียง กุ๊ก ผู้รักษาประตูกัปตันทีมชาติเกาหลีเหนือ ออกมาตัดบอลชเสียบสกัดล้มลง ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนทาง ธีรเทพ วิโนทัย สังหารจุดโทษไม่พลาดให้ ทีมชาติไทย เอาชนะ เกาหลีเหนือ 3-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปเจอกับ เบลารุส ที่เอาชนะ บูร์กินาฟาโซ ในการดวลจุดโทษ 3-0 หลังจบ 90 นาทีเสมอกัน 0-0 ในวันที่ 16 ก.ค.60 เวลา 19.30 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ส่วนนัดชิงอันดับ 3 ระหว่าง บูร์กินาฟาโซ พบกับ เกาหลีเหนือ เริ่มเตะในเวลา 16.30 น.
ขอขอบคุณภาพข่าวจากเฟซบุ๊ก “ฟุตบอลทีมชาติไทย”