วานนี้ (27 ก.ย.63) นาย ทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางเข้าพบกับ ร.ต.อ.อดิเรก กลางพิมาย พนักงานสอบสวนสภ.จอมบึง จังหวัดราชบุรี เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เข้าไปบุกรุกป่าที่บริเวณหมู่ 1 ต.รางบัว อ.จอมบึง ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดชมวิวเขาสน ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง และอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ดินของนายทวี ที่ถูกจับกุมและตรวจยึดไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยมี พ.ต.อ.ไวโรจน์ แน่นพิมาย ผกก.สภ.จอมบึง และ พ.ต.ท.สมคิด พงศ์สินชินภัทร รองผกก.สภ.จอมบึง ร่วมรับฟังข้อมูลด้วย
จากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการตรวจสอบ ซึ่งพบว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้น อยู่ริมถนนสายจอมบึง-สวนผึ้ง เป็นพื้นที่ภูเขา มีการใช้เครื่องจักรกลปรับพื้นที่เป็นขั้นบันไดขึ้นเขา และปลูกบ้านพักตากอากาศทรงไทยอย่างหรูบนภูเขา หลังละหลายสิบล้านบาท ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จ จำนวน 2 หลัง หลังบ้านมีร่องรอยเพิ่งแผ้วถางป่ารุกขึ้นไปบนภูเขา ส่วนบ้านทั้ง 2 หลังนั้นเจ้าของบ้านไม่อยู่เป็นคนกรุงเทพฯ
นายทวี ไกรคุปต์ เผยว่า ได้ให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวน สภ. จอมบึง ว่า การรุกภูเขาสร้างบ้านหรูนี้ น่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องรู้เห็น และร่วมมือบุกรุกที่หลวงบนภูเขา แล้วนำมาขายต่อ ให้คนมีเงินอยู่กรุงเทพฯ ซื้อไปปลูกบ้านหรู ทั้ง ๆ ที่เป็นป่าไม้ ตนเองมีที่ดินเป็นเอกสารสิทธิ 6 แปลง 150 ไร่ ซื้อมา 40 ปีแล้ว อยู่ติดถนนสายนี้อยู่ตรงข้ามจุดชมวิวเขาสน ตรงข้ามที่กำลังบุกรุกนี้
ช่วงปลายของชีวิตผมมาพักที่นี่บ่อย ได้เห็นการบุกรุกอยู่เกือบทุกวันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพื่อเป็นการยับยั้งไม่ให้บุกรุกภูเขาลูกนี้จนหมด จึงได้แจ้งให้ตำรวจท้องที่ดำเนินคดี เรื่องอย่างนี้ไม่มีใครกล้าร้องเรียนกลัวเป็นภัยกับตัวเองที่ไปขัดผลประโยชน์ ผมเห็นด้วยตาตนเองที่เห็นบุกรุกกันอยู่ทุกวัน จึงเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน เพราะอายุเกิน 60 ปีแล้ว อยู่อีกไม่กี่ปีก็คงลงโลง จึงขอใช้ชีวิตส่วนเกินนี้ทวงพื้นผืนป่าที่สมบูรณ์ให้รุกเข้าสร้างบ้านหรู 20 ล้านบาทที่จุดชมวิวเขาสนสวนผึ้ง