“อุ๊งอิ๊ง” พูดแล้ว! หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” เหยียบพรรคเพื่อไทยในรอบ 18 ปี พร้อมอวดห้องทำงานใหม่ ที่เป็นของพ่อ
วันที่ 26 มีนาคม 256 ที่อาคารโอเอไอ ถ.เพชรบุรี ที่ทำการพรรคเพื่อไทย สำหรับบรรยากาศที่พรรคเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า มีกลุ่มผู้สนับสนุนมารอต้อนรับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่มีกำหนเการจะเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย เวลา 13.30 น. บรรดา สส.ต่างทยอยเข้าพรรคกันอย่างต่อเนื่อง
กระทั่ง เวลา 13.00 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี เดินทางมาถึงที่พรรค โดยสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า แจ็กเกตสีกรมท่า และกางเกงยีนส์ ไม่ได้สวมเฝือกอ่อนที่คอและที่พยุงหลัง มุ่งตรงขึ้นตึกไปยังชัั้น 8 เพื่อพูดคุยกับบรรดารัฐมนตรี ข้าราชการการเมืองในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย และอดีตผู้สมัคร สส.ของพรรคเพื่อไทย ก่อนที่จะลงไปชั้น 7 ซึ่งเป็นที่ประชุม สส.ประจำสัปดาห์ เพื่อคุยกับ สส.ของพรรคเพื่อไทย
หลังจากนั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าว ว่า เบื้องต้นก็พานายทักษิณ มาเยี่ยมชมออฟฟิศ และเข้ามาสักการะพระที่เคยอยู่ตั้งแต่ท่านดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และเดินทักทายสมาชิก สส. และพูดประโยคออกมาว่า “ไม่ได้มา 17 ปีแล้วเนอะอะไรๆก็เปลี่ยนไปเยอะ”
เมื่อถามว่า ท่านได้แนะนำอะไรในการทำงานเพิ่มเติมบ้างไหม น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มีเรื่องงานเลย ท่านเหมือนคนแก่ได้กลับบ้านอีกครั้งหนึ่งได้ทักทายทุกคน ซึ่งอิ๊งก็คิดว่าหลายๆท่านก็รอที่จะได้เจอ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ว่าคุณพ่อเป็นคนก่อตั้งไทยรักไทย และเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีผลงานมากที่สุด มันก็เป็นตัวอย่างที่ทำให้ สส.ตั้งใจทำงานกันมากขึ้น
เมื่อถามว่า ท่านมีโอกาสที่จะกลับมาที่พรรคอีกบ่อยๆหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงต้องรอให้ห้องทำงานใหม่เสร็จก่อน อาจจะให้ท่านกลับมาดูอีกครั้ง ในฐานะลูกสาว ไม่ใช่ในหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่างถามต่อว่า นายทักษิณมีโอกาสจะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่? น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้คงไม่มี แต่ก็ต้องถามท่านเพราะตอบแทนให้ไม่ได้ แต่คิดว่าคุณพ่อไปไกลกว่าคำว่าสมาชิกพรรคแล้ว คิดว่าท่านน่าจะสามารถเป็นที่ปรึกษา และทำประโยชน์ให้กลับประเทศได้ โดยการใช้ความรู้ความสามารถ ไม่จำเป็นปรึกษาพรรคเพื่อไทย แต่ปรึกษาให้คนที่จะมีความรู้ในที่นั้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงไหนๆ ที่อยากปรึกษาท่าน และคิดว่าเชื่อในภาพของท่าน
“ท่านเป็นที่ปรึกษาให้อิ๊งอยู่แล้วทุกเรื่อง ทั้งชีวิตตั้งแต่เด็ก อันนี้ปฏิเสธไม่ได้ เพราะฉะนั้นการแยกบทบาทพ่อลูก หรือครอบงำ ก็ไม่ใช่” น.ส.แพทองธาร กล่าว
