กองทัพตุรกีเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน ถล่มชาวเคิร์ดในซีเรีย ส่วนประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันไม่มีส่วนรู้เห็น
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพตุรกีเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน บริเวณพรมแดนในภาคเหนือของซีเรีย โดยมีเป้าหมายคือกองกำลังป้องกันตนเองชาวเคิร์ด (วายพีจี) ส่งผลผลให้พลเรือนหลายพันคนต้องละทิ้งบ้านของตน
ทั้งนี้ ตุรกีถือว่ากองกำลังชาวเคิร์ดที่สหรัฐฯ เคยให้การสนับสนุนและครอบครองพื้นที่ตอนเหนือของซีเรีย เป็นองค์การก่อการร้ายที่เป็นภัย และมองว่าเป็นพวกเดียวกันกับกองกำลังของพรรคคนงานเคอร์ดิสถาน (พีเคเค) ที่สู้รบกับกองทัพตุรกีมานานกว่า 30 ปี เพื่อแบ่งแยกดินแดนทางตอนใต้ของประเทศ

โดยการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังสหรัฐถอนกำลังออกไป ทางตุรกีก็เริ่มโจมตีพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่วันพุธ โดยอ้างว่าเพื่อขับชาวเคิร์ดออกจากพื้นที่ใกล้ชายแดนตุรกีเพื่อความมั่นคง และจะสร้างเขตปลอดภัยขึ้นแทน เพื่อให้ผู้อพยพชาวซีเรียในตุรกีอยู่อาศัย
ส่วนนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า แม้รัฐบาลอังการา มีสิทธิอันชอบธรรมด้านความมั่นคง ในการปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มนักรบชาวเคิร์ดในภาคเหนือของซีเรีย แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลวอชิงตัน อนุญาตให้ตุรกีรุกรานซีเรีย
ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐฯไม่มีทหารในพื้นที่แล้วและที่ถอนทหารออกมาก็เพราะเขาไม่ต้องการทำสงครามไร้สาระที่ไม่มีวันจบและไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อสหรัฐ พร้อมชี้ชัดว่า ปฏิบัติการทางทหารของตุรกีไม่ใช่ความคิดที่ดี และระบุว่าเป็นการรุกราน