ซ่อนเงื่อน! สาวใหญ่ดับปริศนา สภาพศพผูกคอคาต้นกระถิน ตร.พบพิรุธเพียบบ คาดถูกฆ่าอำพรางคดี ล่าตัวผัวสอบเครียด
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 พ.ต.ต.เนติมา กลิ่นโฉม สว.สอบสวน สภ.อัมพวา ได้รับแจ้งเหตุผูกคอเสียชีวิตภายในสวนมะพร้าว ม.9 ต.ปลายโพงพาง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เพชรกล้า ทวีกาญจน์ ผกก.สภ.อัมพวา, ชุดสืบสวน สภ.อัมพวา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.สมุทรสงคราม, พญ.ปิยกมล กล่ำสวัสดิ์ แพทย์เวร รพ.อัมพวา และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม
นายธีรพงค์ ศรีสนธิรักษ์ อายุ 44 ปี คนขนมะพร้าว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเข้ามาช่วยนายสมชาย หรือ ตี๋ คอลาย ขนมะพร้าวในสวน ก็ไม่เป็นสิ่งผิดปกติอะไร กระทั่งออกมาด้านนอกก็ทราบว่าภายในสวนมีคนผูกคอตายจึงตกใจมาก สถานที่เกิดเหตุเป็นสวนมะพร้าว ซึ่งต้องเดินเท้าจากถนนประมาณ 20 เมตร ด้านในเป็นป่ารกชัฏ พบศพ นางจุฑารัตน์ พิบูลย์สวัสดิ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 6 ตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ผูกคอด้วยผ้าพันคอสีขาวฟ้า กับต้นกระถิน สภาพท่ายืนเท้าติดพื้น มือทั้ง 2 ข้าง จับผ้าที่คอไว้แน่น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 ช.ม. ใกล้กันพบกระเป๋าเสื้อผ้า, กระเป๋าเครื่องสำอาง, รองเท้าและมีดพกอันเล็ก 1 อัน วางอยู่ ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และไม่พบสมชาย หล่อหลง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 9 ต.ปลายโพงพาง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม สามี ซึ่งหายตัวไปหลังจากบอกญาติว่าภรรยาผูกคอตายแล้ว พบเพียง รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า msx สีดำ มีผ้าใบคลุมไว้ ที่จอดทิ้งไว้ปากทาง
- คนไทยร่วมอาลัย พนักงานหนุ่ม ใจกล้า สละชีพปิดวาล์ว ก่อนถังสารเคมีระเบิด
- เจ้าของน้ำตาตก! ฟ้าผ่าวัวตายยกฝูง หลังพายุถล่มอรัญประเทศ
- ชาวบ้านผวา! หนุ่มใหญ่ดับปริศนาในป่า ใกล้ศพพบที่ตรวจโควิดขึ้น 2 ขีด
จนท.สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นางจุฑารัตน์ ผู้ตาย เคยถูกสามีคือนายสมชาย คลั่งยาบ้า ใช้ตะขอเกี่ยวกระสอบเกี่ยวไว้ที่คอ จนเป็นข่าวในวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 กระทั่งมาเกิดเหตุครั้งนี้ ซึ่งก่อนเกิดเหตุยังพบสามี แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงสามีกลับหายไป ไม่มาให้ปากคำ จึงเป็นพิรุธที่ต้องติดตามนายสมชาย สามีมาสอบสวน ขณะที่ยังพบพิรุธที่ลักษณะผู้ตายในสภาพยืน และมือยังจับผ้าที่บริเวณคอ ที่อาจจะเป็นการฆาตกรรมอำพลางหรือไม่ หรือ ผู้ตายอาจจะเครียดปัญหาส่วนตัวจึงตัดสินใจผูกคอตายเองก็เป็นได้ เจ้าหน้าที่จึงส่งศพไปชันสูตรที่แผนกนิติเวช รพ.ราชบุรี และจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
