“บิ๊กตู่” บินญี่ปุ่นร่วมประชุมผู้นำ “G20” ประจำปี 2562 เมือง “โอซากา” 28-29 มิ.ย.นี้ ลุยสร้างความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย หลังผ่านเลือกตั้ง
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยแก่สื่อมวลชนเกี่ยวกับภารกิจด้านต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมการประชุมผู้นำ G20 ประจำปี 2562 ณ นครโอซากา ระหว่างวันที่ 28 – 29 มิ.ย. โดยมีรายละเอียด ดังนี้
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสาระสำคัญของการประชุมว่าก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นเวทีอย่างไม่เป็นทางการผู้นำเศรษฐกิจลำดับต้นเพื่อหารือและเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นสำคัญของโลก ใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ (1) เศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเงินโลก (2) การเพิ่มความแข็งแกร่งของโครงสร้างทางการเงิน และ(3) การส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศของประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ และประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยสมาชิกของกลุ่ม G20 ประกอบด้วย ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 8 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร แคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่ 11 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ และตุรกี และสหภาพยุโรป ซึ่งประเทศสมาชิกกลุ่ม G20 มี GDP เท่ากับร้อยละ 90 ของโลก และ มีจำนวนประชากรเป็นร้อยละ 60 ของโลก
การประชุมผู้นำ G 20 จัดขึ้นทุกปี โดยเมื่อปี 2559 นายกรัฐมนตรีได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมผู้นำ G20 ที่นครหางโจว ในฐานะที่ไทยเป็นประธานกลุ่ม 77 และในครั้งนี้นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียน ซึ่งหัวข้อหลักในการประชุมครั้งนี้ มี 4 หัวข้อด้วยกัน ได้แก่ 1) เรื่อง “เศรษฐกิจโลก การค้า และการลงทุน” 2) นวัตกรรม (เศรษฐกิจดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์) 3) “การแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียม และการสร้างโลกที่ยั่งยืนและทุกคนมีส่วนร่วม” 4) “การเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อม และพลังงาน”
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีในนามประธานอาเซียน ตั้งใจที่จะผลักดันบทบาทของไทยในฐานะประธานอาเซียน และตอกย้ำประเด็นสำคัญที่ได้ข้อสรุปจากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 เพื่อต่อยอดไปยังการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ในเดือนพ.ย. 2562 และผลักดันบทบาทของไทยในฐานะตัวกลางที่สามารถเป็นสะพานเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างอาเซียน และ G20 เพื่อร่วมกันต่อสู้กับประเด็นท้าทายที่สำคัญในโลก ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจของไทยภายหลังการเลือกตั้ง โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในระหว่างการเดินทางครั้งนี้ด้วย
