“ภูเก็ต” จับมือกสศ. ใช้ระบบ Q-Info ติดตามนักเรียน ลดสอบตก–โดดเรียน พร้อมยกระดับสู่ Digital Smart School
ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่4 ที่เทศบาลนครภูเก็ตและโรงเรียนในสังกัดทั้ง 7 แห่ง ได้ใช้งาน “ระบบเพิ่มคุณภาพการศึกษาและพัฒนาคุณภาพนักเรียนQuality learning Information System หรือ Q-info (คิวอินโฟ) ในการบริหารจัดการข้อมูลสารสนเทศทั้งระบบการศึกษา ในเทศบาลนครภูเก็ตโดยปีการศึกษา 2561 ที่ผ่านมามีบุคลากรครู 658 คนนักเรียน 9,668 คนใช้ระบบQ-info ในการจัดการศึกษา และติดตามข้อมูลการเรียนการสอนที่เปิดสอนทั้งสิ้น 2,729 วิชาตลอดปีการศึกษา ซึ่งเป็นข้อมูลจำนวนมหาศาล ที่ปัจจุบันเทศบาลนครภูเก็ตใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทันสมัย ในการบริหารจัดเก็บในรูปแบบข้อมูลดิจิตอลอย่างครบวงจร
ดร.ไกรยส กล่าวว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 จนถึงปัจจุบันรวมระยะเวลากว่า 4 ปีพบว่าระบบ Q-info ยังคงช่วยสนับสนุนการทำงานของครูในการลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มคุณภาพการศึกษาของผู้เรียนในสถานศึกษา สังกัดเทศบาลนครภูเก็ตได้อย่างมีนัยสำคัญ อาทิ สามารถแก้ปัญหาผู้เรียนเป็นรายคนอัตรา การเข้าเรียนของนักเรียนเพิ่มขึ้นทุกโรงเรียน ทั้งในระดับประถมและมัธยมศึกษาโดยสถานศึกษาทั้ง 7 แห่งมีค่าเฉลี่ยจำนวนนักเรียนติด 0 สะสมเกิน 3 วิชาใน 1 ปีการศึกษาที่ลดลงมากกว่า 75% ภายในระยะเวลา 4 ปีที่ใช้งานระบบ Q-info ในขณะที่จำนวนนักเรียนที่มีเกรดเฉลี่ยสะสมต่ำกว่า 1.5 ของทั้ง 7 สถานศึกษามีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ภายใน 4 ปี การศึกษา รวมทั้งแนวโน้มการออกจากระบบการศึกษาของทั้ง 7 โรงเรียนการลดลงอย่างต่อเนื่อง
ดร.ไกรยส กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เป็นบทพิสูจน์ว่าพลังข้อมูลและเทคโนโลยีซึ่งเป็นสิ่งที่ กสศ.ให้ความสำคัญในการวิจัยพัฒนานวัตกรรมเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง สามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการสนับสนุนครู และผู้บริหารสถานศึกษาทำให้ความเสมอภาคทางการศึกษาเกิดขึ้นได้ในทุกโรงเรียน และระบบที่ออกแบบขึ้นทำให้ท้องถิ่นสามารถใช้ข้อมูลวางแผน และแก้ปัญหาการศึกษาได้อย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ การศึกษาของเทศบาลนครภูเก็ตก้าวหน้ามาถึงจุดนี้ได้ เพราะผู้บริหารทุกระดับตั้งแต่ระดับเทศบาลถึงระดับสถานศึกษาให้ความสำคัญ กับการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา(EdTech) เพื่อพัฒนาการศึกษาแบบครบวงจร จนปัจจุบันสำนักการศึกษาและโรงเรียนในเทศบาลภูเก็ตเลิกใช้กระดาษในการจัดการข้อมูลการศึกษาส่วนใหญ่แล้ว และกำลังจะก้าวสู่โรงเรียนและระบบการศึกษาดิจิตอลเต็มตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ สู่ Digital Smart School
ด้านนางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า อยากจัดการศึกษาดูแลเด็กให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อสร้างโอกาสลดความเหลื่อมล้ำให้ความสำคัญกับคุณภาพการศึกษา มุ่งมั่นพัฒนาเด็กให้เต็มศักยภาพ เพราะนักเรียนของเทศบาลมีความเหมือนและแตกต่างกันแต่เราเดินไปคนเดียวไม่ได้ จะต้องอาศัยภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ซึ่งระบบที่นำมาใช้ส่งผลให้เป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะเรื่องการเพิ่มโอกาสทางการศึกษา ยกระดับคุณภาพการศึกษาและเพิ่มประสิทธิภาพการศึกษาประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยให้บริหารจัดการศึกษา ลดเวลาการทำงานของครูด้านเอกสาร และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายต่อไปของระบบที่เรานำมาใช้คือ แก้ปัญหาเด็กจบการศึกษาแต่ไม่มีงานทำ ซึ่งเชื่อว่าระบบนี้จะทำให้ได้ข้อมูลที่ช่วยให้เด็กมีงานมีที่สอดคล้องกับประเภทงาน ตามบริบทความเป็นเมืองภูเก็ตได้ในอนาคต
“เทศบาลนครภูเก็ตได้จัดให้มีการประชุม “พิมพ์เขียวการศึกษา” Phuket Education Blueprint ขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงปิดเทอมใหญ่เมษายน เพื่อให้ผู้บริหารเทศบาลและสถานศึกษาในสังกัดนำเอาข้อมูล ผลการจัดการศึกษาทุกด้านจากระบบ Q-info มาใช้ประเมินผลและวางแผนการศึกษาในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดตามผลลัพธ์ว่า มีการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นเหมือนที่วางเป้าหมายไว้หรือไม่ รวมถึงเห็นว่าโรงเรียนแต่ละแห่งมีจุดอ่อนจุดแข็งอะไรบ้าง และต่อยอดไปสู่การทำแผนการพัฒนาโรงเรียนได้อย่างมีทิศทางที่ชัดเจน โดยมีประชาคมภูเก็ตจากทุกภาคส่วนมาร่วมในกระบวนการ“นายกเทศมนตรีนครภูเก็ตระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ Q-info เป็นระบบข้อมูลสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการพัฒนาโรงเรียนสามารถทำได้ 1.เพื่อติดตามนักเรียนเป็นรายคนอย่างต่อเนื่อง สามารถติดตามสถิติการมาเรียน–ขาดเรียนรวมถึงผลการเรียนของนักเรียนเป็นรายคน 2.เพื่อแจ้งเตือนกรณีนักเรียนที่มีความเสี่ยงสูง อันรวมถึงความเสี่ยงทั้งด้านพฤติกรรมด้านเศรษฐฐานะด้านสุขภาพและด้านสังคม 3.เพื่อช่วยลดภาระของครูในการประมวลข้อมูล และลดภาระทางธุรการทำให้สามารถดำเนินการได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้นและ 4.ประมวลผลในระดับชั้นเรียนจนถึงภาพรวมของโรงเรียน เพื่อใช้ประโยชน์ จากข้อมูลในกระบวนการวางแผนพัฒนาโรงเรียน(Evidence-based Planning)