อธิบดี ทช. เปิดแนวรุก สั่งการรื้อถอนรีสอร์ทเกาะจิกรุกทะเลจันทบุรีผ่านศูนย์พิทักษ์ทะเล

วันที่ 7 พ.ย.61 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อธิบดี ทช.) กล่าวว่า จากกรณีที่มีการร้องเรียนผ่านสื่อโซเชียล ว่าพบการรุกล้ำพื้นที่ชายฝั่งทะเลของเกาะจิกรีสอร์ท จึงทำให้เกิดเป็นข้อสงสัยว่าการก่อสร้างของรีสอร์ทดังกล่าวนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ โดยเมื่อวันที่ 4 พ.ย.61 ที่ผ่านมา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้มอบหมายให้สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (จ.ระยอง) พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว ลงพื้นที่ร่วมกับนายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ราชการจังหวัดจันทบุรี นายสมชาย ลี้วงศกร นายอำเภอขลุง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาจันทบุรี ที่ดินจังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้อง จากการลงพื้นที่ดังกล่าว ได้พบกับนายณรงค์ชัย เหมสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านเกาะจิก และนางเชาวเน ชวนจิตร ผู้ดูแลเกาะจิกรีสอร์ท แต่ไม่พบนายณรงค์ หงส์บิน เจ้าของรีสอร์ท พร้อมกันนี้ได้สำรวจบริเวณโดยรอบเกาะจิกรีสอร์ท พบมีบ้านทั้งหมด 15 หลัง สะพานคอนกรีตยาวประมาณ 50 เมตร และห้องอาหารขนาดใหญ่อีก 1 หลัง มีเนื้อที่ตามเอกสารโฉนดที่ดิน 97 ตารางวา แบ่งเป็น รีสอร์ทในน้ำ 10 หลัง เนื้อที่ 1.83 ไร่ และรีสอร์ทบนบก 5 หลัง เนื้อที่ 1.86 ไร่ รวมเนื้อที่บุกรุก 3.96 ไร่

นายจตุพร อธิบดี ทช. กล่าวต่อว่า ซึ่งในวันนี้ กรม ทช. ได้ติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติงานในพื้นที่เกาะจิก หมู่ 1 ต.บางชัน อ.ขลุง จ.จันทบุรี ในการลงพื้นที่ตรวจยึดและปิดประกาศสั่งรื้อถอนรีสอร์ทเกาะจิก ที่ก่อสร้างรุกล้ำพื้นที่ชายฝั่งทะเล จ.จันทบุรี ผ่านห้องปฏิบัติการ “ศูนย์อำนวยการพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง” ที่พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ผลจากการปฏิบัติงานในพื้นที่เกาะจิก จ.จันทบุรี โดยการนำของนายพงษ์พัฒน์ วงศ์ตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.จันทบุรี ซึ่งกรม ทช. ได้มีคำสั่งให้เกาะจิกรีสอร์ท หยุดทำการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมทั้งสำนักงานเจ้าท่าสาขาจันทบุรี ได้สั่งให้เพิกถอนอาคารที่ก่อสร้างลงไปในทะเลรวม 11 หลัง ภายใน 90 วัน และห้ามใช้อาคารดังกล่าว ในส่วนกรมป่าไม้ จ.จันทบุรี ได้ทำการตรวจยึดพื้นที่บุกรุกก่อสร้างอาคารบนบกรวม 3 หลัง ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และได้ทำการจับกุมผู้ดูแลรีสอร์ทดังกล่าว

พร้อมกันนี้ กรม ทช. ได้มอบหมายให้นายภุชงค์ สฤษฏีชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (ระยอง) ดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ตามมาตรา 17 ในการปิดประกาศให้รื้อถอนอาคารรีสอร์ท ภายใน 90 วัน และสั่งงดใช้อาคารในส่วนที่ยื่นลงไปในทะเล รวมถึงได้ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ขลุง จ.จันทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ ได้มอบให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก (จ.ระยอง) สำรวจและรายงานผลด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งใต้ทะเลโดยรอบเกาะจิก จากการสำรวจเบื้องต้นไม่พบแนวปะการังและแหล่งหญ้าทะเลได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ซึ่งตรงกับฐานข้อมูลกลางในระบบ Big Data ของศูนย์อำนวยการพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

นายจตุพร อธิบดี ทช. กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับการปฏิบัติงานภายในห้องศูนย์อำนวยการพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ใช้ระบบฐานข้อมูลกลางและมาตรฐานข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในลักษณะ Big Data เป็นระบบงานหลัก โดยการเชื่อมโยงข้อมูลที่เกี่ยวข้องและนำมาแสดงผลบนระบบแผนที่ออนไลน์ เพื่อแสดงตำแหน่งที่ตั้งของข้อมูลกายภาพ ข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยมีแอปพลิเคชั่นในการตรวจสอบ ค้นหาสถานที่ และวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ พร้อมกับนำนโยบาย Thailand 4.0 โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาห้องศูนย์อำนวยการพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งขึ้น เพื่อเป็นData Center หรือศูนย์ประสานงาน เชื่อมโยง และบูรณาการข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่างๆเพื่อการเฝ้าระวัง ติดตาม และวิเคราะห์สถานการณ์ที่จะมีผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทั้งในช่วงเวลาปกติและในช่วงสถานการณ์วิกฤตต่างๆ อีกด้วย

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า