กรณีมีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวเกี่ยวกับปลาฉลามกัดนักท่องเที่ยว บริเวณชายหาดทรายน้อย ตำบลเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 เมษายน 2561 ที่ผ่านมานั้น
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนได้ติดตามข่าวดังกล่าวมาโดยตลอด พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้คอยกำกับติดตาม และประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2561 ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่พร้อมอัตรากำลัง กว่า 30 นาย ลงพื้นที่เฝ้าระวังเหตุให้กับนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่จากเทศบาล ทหารและตำรวจท่องเที่ยว ในเขตอำเภอหัวหิน ซึ่งเหตุการณ์เป็นปกติ และในวันนี้ 17 เมษายน 2561 ตนก็ได้มอบหมายให้นายบรรณรักษ์ เสริมทอง ผอ.สบทช.4 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกับคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายอำเภอหัวหิน สารวัตรตำรวจน้ำอำเภอหัวหิน ประมงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทหารจากศูนย์กลางทหารราบปรานบุรี และตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่เกิดเหตุสอบถามหารือกับเจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาเต่า ซึ่งเป็นผู้ที่เผยแพร่คลิปภาพฉลามตามข่าว พร้อมทั้งส่งทีมสัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง เข้าร่วมตรวจสอบร่องรอยบาดแผลของผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยส่งต่อให้ ดร.ทัศพล กระจ่างมาลา ผู้เชี่ยวชาญด้านฉลาม สังกัดกรมประมง ตรวจสอบ โดยพบว่าร่องรอยบาดแผลของผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เป็นรอยคล้ายการกัดของฉลามหัวบาตร ถัดมาคณะทั้งหมดได้ร่วมกันแถลงข่าวที่โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน ในเขตอำเภอหัวหิน โดยได้รับข้อมูลยืนยันจากนายแพทย์พงษ์ศักดิ์ บุญลีพรรณ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพฯ-หัวหิน ว่าบาดแผลจากผู้ประสบเหตุเป็นบาดแผลจากการโดนกัดของเขี้ยวสัตว์ทะเล ซึ่งผลสรุปจากทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านฉลามก็ตรงกัน สามารถยืนยันได้ว่าร่องรอยบาดแผลของผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เกิดจากการกัดของฉลามอย่างแน่นอน สำหรับทางด้านผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งทราบชื่อในภายหลัง คือนายเวอร์เนอร์ อัลเนลซัน สัญชาตินอร์เวย์ ตนได้มอบหมายให้นายบรรณรักษ์ เสริมทอง เป็นผู้แทนเข้าเยี่ยมพร้อมกับพูดคุยกับผู้ประสบเหตุ และร่วมมอบกระเช้าดอกไม้และของที่ระลึกเพื่อเป็นขวัญกำลังใจสำหรับการเตือนภัยแก่นักท่องเที่ยวในเบื้องต้น ขณะนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้กำหนดมาตรการคือทำป้ายเตือนนักท่องเที่ยว พร้อมจัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ชายหาดดังกล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในเบื้องต้น เมื่อตอนบ่ายวันที่ 17 เมษายน 2561 ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเรือทรัพยากร ออกสำรวจเข้าตรวจชายฝั่งทะเลพื้นที่หาดทรายน้อย เพื่อนำข้อมูลมาวางแผนในการบริหารจัดการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยได้ร่วมกับเรือตำรวจน้ำ เพื่อสำรวจฝูงฉลามและได้ประสานกับหน่วยทหาร เพื่อใช้โดรนบินตรวจทางอากาศ จำนวน 4 ลำ จากการบินสำรวจพบฉลามขนาดความยาวประมาณ 1.5 เมตรจำนวน 2 ตัว กำลังว่ายน้ำ แต่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยเนื่องจากฝนตกหนักจึงไม่สามารถติดตามพฤติกรรมของฉลามต่อไปได้ อย่างไรก็ตามตนขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยทางภาครัฐจะใช้รูปแบบการแก้ไขปัญหาเป็นขั้นเป็นตอนโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ประกอบกับการรักษาสมดุลของระบบนิเวศตามธรรมชาติ ซึ่งในเบื้องต้นกรมฯจะได้หารือกับเทศบาลหัวหินและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในการจัดทำแนวทุ่น และติดตั้งตาข่ายเพื่อป้องกันฉลามตลอดจนแมงกะพรุนพิษต่างๆ ซึ่งตนได้มอบหมายให้นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่อำเภอหัวหินเพื่อหารือความคืบหน้าดังกล่าว ในวันที่ 18 เมษายน 2561นี้ ทั้งนี้ พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำชับให้กรมแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยใช้หลักวิชาการ คำนึงถึงสภาพความเป็นอยู่ของสัตว์ทะเลในธรรมชาติ และที่สำคัญความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนต้องได้รับการเอาใจใส่อย่างเข้มงวด โดยให้ร่วมมือกับทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อธิบดี ทช.กล่าวทิ้งท้าย.
