ONLY THE BRAVE หายนะสะเทือนอารมณ์จากเรื่องจริงกับ 5 นักแสดงตัวท๊อป ทุ่มเต็มสปิริตกล้า ลุยฝ่าไฟนรก

ONLY THE BRAVE คนกล้าไฟนรก

ถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่คอหนังทั่วโลกต่างรอคอยสำหรับภาพยนตร์หายนะ-ดราม่าสะเทือนอารมณ์ที่บอกเล่าเรื่องจริงจากเหตุการณ์ไฟป่าครั้งรุนแรง ณ เพรสคอตต์ รัฐอริโซน่า จนต้องถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ซึ่งเนื้อหาในเรื่องนอกจากจะมุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์จริงแล้ว ยังสื่อให้เห็นถึงพลังใจ ความรัก และสามัคคีของทีมผจญเพลิง แกรไนท์ เมาน์เท่น ฮอตชอตส์ วีรบุรุษผู้กล้าหาญที่ทุ่มเต็มสปิริตความกล้า ลุยฝ่าไฟนรก ปกป้องทั้งชีวิตและบ้านเรือนของผู้คนในเมือง

“ในยุคที่มีแต่หนังซูเปอร์ฮีโร่ Only the Brave คือหนังที่เล่าถึงฮีโร่ที่มีตัวตนอยู่จริงๆ” นี่คือสิ่งที่ผู้กำกับ โจเซฟ โคซินสกี้ ต้องการให้ ONLY THE BRAVE เป็น แน่นอนว่าทีมงานเบื้องหลังจึงต้องทำการบ้านกันอย่างหนักเพื่อให้เรื่องนั้นถ่ายทอดออกมาได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญการเฟ้นหาตัวนักแสดงหลักทั้ง 5 คนที่จะมาสวมบทบาทนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะพวกเขาต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อให้เข้าถึงความรู้สึกทั้งภายในและภายนอกของนักผจญเพลิง และมอบการแสดงออกมาได้ดีอย่างไร้ที่ติ

บทบาท “อีริค มาร์ช” หัวหน้าทีมผจญเพลิงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “จอช โบรลิน” นักแสดงมากความสามารถผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากMilk รวมทั้งในชีวิตจริงตัวเขายังเคยทำงานเป็นนักดับไฟป่ามาแล้วนานถึง 3 ปี จอชได้รับคำชมจากทีมงานถึงการเตรียมพร้อม เพราะลุยออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักลงมาถึง 40 ปอนด์ ศึกษาถึงการเป็นนักผจญเพลิงผ่านหนังสือและวีดีโอ “ช่วงเริ่มต้นอาชีพของเขาไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ เขาสร้างทุกอย่างด้วยมือของเขาเอง เขาเจ็บมากเยอะ แต่เขาก็ยังเรียนรู้ว่าจะเป็นผู้นำที่ดีได้ยังไง ผมชื่นชมที่เขาทำงานหนักเพื่อให้มาถึงจุดที่เขาอยู่”

ด้าน “ไมล์ส เทลเลอร์” นักแสดงหนุ่มที่แจ้งเกิดและฉายแววความสามารถจากภาพยนตร์ดราม่า Whiplash รับบทเป็น “เบรนแดน โดนัท แมคดาน่าห์” ชายหนุ่มที่ตอนแรกไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นนักผจญเพลิง แต่เมื่อชีวิตเขากำลังไร้ทิศทาง สิ่งนี้จึงกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตเขาให้ดีกว่าเดิม “เขาอยู่ในจุดต่ำสุดของชีวิตตอนเริ่มเรื่อง ผมคิดว่านักผจญเพลิงเหล่านี้เป็นคนที่เขามองเป็นเยี่ยงอย่างอยู่เหมือนกัน แต่เขาก็แอบคิดว่าคงจะโดนถีบออกมาแน่ๆ หากเข้าไปในกลุ่มแล้วบอกว่า ผมอยากเป็นนักผจญเพลิง”

ฝั่งของ “เทเลอร์ คิทช์” มารับบทเป็น “คริส แมคเคนซี่” ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในทีมมาเพียงแค่ 3 ปี แต่ว่าเขานั้นมีประสบการณ์มากกว่าคนในทีมจำนวนมาก ต้องบอกเลยว่านักแสดงหนุ่มตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อรู้ข่าวดีว่ามีโอกาสได้มาเล่นเรื่องนี้ สิ่งสำคัญอีกอย่างที่เขาโดดเด่นในภาพยนตร์คือ การนำเสนอความสัมพันธ์ระหว่าง คริส แมคเคนซี่ และ เบรนแดน โดนัท แมคดาน่าห์ (รับบทโดย ไมล์ส เทลเลอร์) “สถานการณ์มันกลับตาลปัตรกันเลย เพราะแมคเคยเห็นเขายอมแพ้มาก่อน เขาเลยไม่ให้เครดิต โดนัท สักนิดเดียว แต่การกระทำของโดนัทก็เริ่มได้ใจของแมคขึ้นทุกทีๆ จนสุดท้ายพวกเขาก็กลายเป็นรูมเมทและเป็นเพื่อนสนิทกัน ในหนังมีหลายช่วงที่เราจะได้เห็นว่าความสัมพันธ์ของของพวกเขาพัฒนาและค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปได้ยังไง”

อีกหนึ่งนักแสดงที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้นั่นคือ “เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี่” ดาราสาวเจ้าของรางวัลออสการ์สมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก A Beautiful Mind เธอก้าวเข้ามารับบทเป็น“อแมนด้า มาร์ช” ภรรยาของ อีริค มาร์ช (รับบทโดย จอช โบรลิน) ในเวลาที่สามีออกไปทำภารกิจ เธอนั้นประกอบอาชีพของตัวเอง ด้วยการเป็นผู้ดูแลทำเกือกม้า และบริหารไร่ ทั้งนี้ เจนนิเฟอร์ ได้เผยว่าสิ่งที่ทำให้เธอนั้นตัดสินใจมารับบทนี้นั่นคือผู้กำกับ โจเซฟ โคซินสกี้ “โจเซฟ อยากสำรวจความซับซ้อนของงานนี้ ความซับซ้อนของชีวิตและความสัมพันธ์ของพวกเขา เพื่อดูว่าอิทธิพลของงานนี้มันส่งผลถึงชีวิตยังไง เขานำเสนอความความสำเร็จของทุกคนในทีมออกมาด้วยอย่างเป็นมนุษย์”

ส่วนเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง “เจฟฟ์ บริดเจส” มีโอกาสได้มาโชว์ฝีมือสู่สายตาคอหนังอีกครั้งในบทบาทของ “ดเวย์น สไตน์บริงค์” หัวหน้าหน่วยผจญเพลิงป่าประจำเมืองเพรสคอตต์ อีกทั้งยังเป็นหนุ่มลุคคาวบอยผู้ทรงเกียรติ ฉลาดหลักแหลม ซึ่งจะคอยชี้แนะบทเรียนต่างๆ ให้กับ อีริค มาร์ช (รับบทโดย จอช โบรลิน) หัวหน้าทีมผจญเพลิง “เขาเหมือนคนเก่าคนแก่ หรือบางทีก็เหมือนพ่อของ อีริค มาร์ช ตัวละครของ จอช โบรลิน และคนที่มองเขาเป็นแบบอย่างทั้งหลาย”