โฆษกราชบัณฑิตยสภา แนะนำประชาชนควรใช้คำราชาศัพท์ในช่วงวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ ให้ถูกต้อง ย้ำหากเป็นคำราชาศัพท์อยู่แล้วไม่ต้องมีคำว่า “ทรง” นำหน้า
น.ส.สุปัญญา ชมจินดา เลขานุการกรม และโฆษกสำนักงานราชบัณฑิตยสภา เปิดเผยในงานเสวนาหัวข้อ “ภาษาไทย ภาษาสื่อ” ซึ่งจัดโดย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า คำราชาศัพท์ที่ใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อยู่นั้น การใช้คำราชาศัพท์ให้ถูกต้องเป็นเหมือนการให้เกียรติเจ้านายแต่ยังมีการใช้ไม่ถูก เช่น “เสวย” ไม่ต้องมี “ทรง” นำหน้า ส่วนเรื่องคำว่า “สวรรคต” ต้องออกเสียงว่า สะ-หฺวัน-คด ไม่ใช่ สะ-หฺวัน-นะ-คด
ส่วนคำว่า “ถวาย” ที่ประชาชนเข้าใจว่าเป็นคำราชาศัพท์ เมื่อจะไปวางดอกไม้จันทน์ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ น่าจะมาจากที่ประชาชนคิดว่าถ้าใช้ว่า “วางดอกไม้จันทน์” จะเป็นการวางดอกไม้จันทน์สำหรับคนทั่วไปหรือไม่ ทว่าการใช้ถ้อยคำที่เหมาะสมนั้นสามารถใช้ได้ว่า “ไปวางดอกไม้จันทน์เพื่อแสดงความอาลัยถวายแด่…” หรือ “วางดอกไม้จันทน์เพื่อแสดงความอาลัยถวาย” ซึ่งสามารถเรียบเรียงถ้อยคำเพื่อใช้ภาษาให้เหมาะสมได้
ทั้งนี้ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา ได้เผยแพร่ราชาศัพท์เกี่ยวกับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพิ่มเติมในเว็บไซต์ http://www.royin.go.th ซึ่งประชาชนหรือหน่วยงานต่าง ๆ สามารถเข้าไปตรวจสอบความถูกต้องได้ อย่างไรก็ตาม ขอยกตัวอย่างคำว่า “จารึกไว้ในใจไทยทั่วหล้า” “ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจนหาที่สุดมิได้” ที่มักจะพบว่าใช้ผิดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งตามความถูกต้องต้องตามด้วยชื่อบุคคล ห้ามใส่ชื่อหน่วยงานก่อน ส่วนคำว่า “พระบรมราโชวาท” ขณะนี้ละเว้นไว้ไม่ได้ใช้ และคำอื่น ๆ อาจนำกลับมาใช้อีกครั้งหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว ส่วนคำว่า “บรม” ที่ใช้ในราชาศัพท์เฉพาะพระมหากษัตริย์ ขณะนี้ที่ใช้สำหรับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้ละคำว่า “บรม” ไว้ เช่นคำว่า “พระบรมราชโองการ” ใช้ “พระราชโองการ” ทั้งนี้ราชาศัพท์ที่มีคำว่า “บรม” น่าจะนำมาใช้เต็มรูปแบบเมื่อรับบรมราชาภิเษกแล้วเช่นกัน
ด้าน ดร.โสภา ชูพิกุลชัย ชปีลมันน์ นายกราชบัณฑิตยสภา เปิดเผยว่า การปลูกฝังการใช้ภาษาไทยที่ต้องทำแต่เด็ก ๆ นั้น โดยเฉพาะการใช้คำราชาศัพท์ที่ถูกต้อง อาจจะต้องใช้ช่องทางสื่อ เช่น ละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ที่คนส่วนใหญ่ติดตามดูเพื่อให้เข้าใจง่าย และจดจำได้มากกว่าสื่อต่าง ๆ ส่วนวัยรุ่นหากจะใช้ละครจักร ๆ วงศ์ ๆ คงไม่ได้ จึงต้องหาวิธีการใช้สื่อช่องทางอื่น ๆ ในการเรียนรู้แทน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพข่าวจาก สำนักงานราชบัณฑิตยสภา