ประสบการณ์ดราม่า "หน้ากากออกซิเจน" สายการบินดัง ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย!!

ดราม่าประเด็นร้อนกับประสบการณ์การขึ้นเครื่องบินสายการบินดัง ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย!

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (19 ก.ย.60) ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งนามว่า Jatattaya Kittibunthon ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้โพสต์ข้อความบรรยายถึงการประสบการณ์การขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของสายการบินดังอย่าง “Thai Lion Air” แต่ดูเหมือนความรู้สึกของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้จะไม่ประทับใจเท่าไหร่และอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ใช้บริการ พร้อมระบุข้อความว่า…

รักชีวิตอย่าคิดขึ้น Thai Lion Air ประสบการณ์ขึ้น Thai Lion Air ครั้งแรก ก็เจอว่า

1. ระบบ Scan กระเป๋ามั่วซั่ว ถูกโทรตามให้รีบกลับไป Counter Check in ว่ากระเป๋ามี Power Bank!! แต่พี่กานต์ก็ยืนยันว่าไม่มี ไม่ได้เอามา เจ้าหน้าที่ก็บอกให้รีบวิ่งจาก Gate กลับไป Counter Check in เดี๋ยวนี้คุณมีเวลา 20 นาทีก่อนเครื่องจะขึ้น ฝากไว้ก่อนวางว่าให้รีบมาระวังตกเครื่องนะคะ! สรุปเมื่อถึงก็ไหนวะ Power Bank #ไม่มี #มีแค่อุปกรณ์เครื่องมือและน้ำกาแฟ #วิ่งไปเหนื่อยฟรี

2. รู้ว่าเครื่องมีปัญหาหลังเครื่องขึ้นไปแล้ว!!! (ซื้อตั๋วไม่แถมอากาศ) > ก่อนเครื่องขึ้น อากาศในเครื่องร้อนมาก หายใจลำบาก จนต้องเอากระดาษมาพัด #เหมือนไร้แอร์

> หลังจากเครื่องขึ้นไปไม่ถึง 20 นาที อยู่ๆหน้ากากก็เด้งหล่นออกมา แต่ปราศจากการประกาศ ทุกคนหันหน้ามองกันว่าเกิดอะไรขึ้น จนสักพักเจ้าหน้าที่ถึงประกาศว่าให้สวมหน้ากาก แต่หน้ากากของพี่กานต์แฟบไม่มีออกซิเจนออกมา #หน้ากากไร้ออกซิเจน

จนลงมาถึงได้คำตอบจากเพื่อนที่เป็นแอร์สายการบินอื่น ว่าที่เจอคือ Decompression (ความดันอากาศในเครื่องเสีย) ซึ่งขนาดแอร์สายการบินอื่นที่บินมาหลายปียังไม่เคยเจอ

3. เวลาเกิดเรื่องพนักงานบนเครื่องดูแลชีวิตคุณไม่ได้

> เข้าใจว่าไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดเรื่องแล้วไม่บอกว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ประกาศ ละเลยความรู้สึกผู้โดยสารเกินไป จนต้องถามแอร์ ซึ่งแอร์เองก็ดูทำอะไรไม่ถูก บอกได้แต่ว่าระดับอากาศบนเครื่องมีปัญหา

> กัปตันหายไปไหน ไม่ประกาศใดๆ หายใจจนหน้ากากแบน ต้องให้สุดๆถึงจะประกาศว่าจะเอาเครื่องกลับดอนเมือง

4. ไร้ความช่วยเหลือ

เรื่องพีคและปี๊ดสุดตรงหลังเกิดเรื่องลงมา Terminal อ้าว! เฮ้ย! ทำไมคนที่ทำงานด้านล่าง ไม่รู้เรื่องอะไรเลย? ไม่ช่วยเหลือ ไม่แนะนำว่าต้องทำอะไรต่อ จนเราบอกไม่ขอเดินทางต่อเพราะพี่กานต์คนที่เดินทางมาด้วยปวดหูมาก คงไปต่อไม่ไหว ไม่มีการช่วยเหลือ ไม่มีทีมพยาบาลมาดูแล และไม่เยียวยาจิตใจหลังเกิดเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด

ฝากไว้แต่ประโยคที่ว่า ถ้าไม่เดินทางต่อ Full Refund ให้ไม่ได้นะคะ จะคืนให้ 150 บาทค่าภาษีสนามบิน เพราะทางเราจะ Refund และชดเชยในกรณีเดียวเท่านั้นคือเมื่อเครื่อง Delay เกิน 2 ชั่วโมง!! #พร้อมหน้าตาของพนักงานที่ไม่พร้อมฟังเรื่องราวใดๆที่เกิดขึ้นมาทั้งสิ้น #พูดอยู่คำเดียวนี่คือกฎของบริษัท

ฝากไว้จากใจ

สินค้าหรือบริการใดก็ตามที่เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันแล้วสามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตของลูกค้าได้ แบรนด์ควรแก้ไขสถานการณ์นั้นอย่างระมัดระวังเป็นที่สุด ทุกคนเข้าใจว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้และพร้อมจะทำใจยอมรับส่วนหนึ่งอยู่แล้ว แต่ก่อนที่คุณจะหาทางแก้ไขสถานการณ์ใดๆ ควรเริ่มจากการรับฟัง เห็นอกเห็นใจผู้ประสบเหตุจากสินค้าหรือบริการของคุณ เพียงแค่นี้เหตุการณ์จะทุเลาลงไปเยอะ แล้วค่อยหาทางออกของสถานการณ์นั้นร่วมกัน

#ถ้าต้องทำธุรกิจที่เกี่ยวกับชีวิตคนอย่าทำแบบนี้
#ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย

ลาก่อน Thai Lion Air

ทั้งนี้ได้มีชาวเน็ตต่างเข้ามากดไลก์แอนด์แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้กันเป็นจำนวนมาก ต่างคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ในหลายแง่หลายประเด็นทั้งในด้านดีและด้านลบ ทางที่ดีรอสายการบินดังออกมาอธิบายดราม่าในครั้งนี้ก่อนจะดีกว่า! บอกคนบอกเล่าประสบการณ์ของสายการบินนี้ บางคนแนะนำวิธีการใช้หน้ากากออกซิเจนกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้