เปิดใจซิงซิง! นักแสดงหนุ่มชาวจีน ถูกหลอกข้ามแดนไทย-เมียนมา แฉขบวนการ ก่อนถูกบังคับ ฝึกพิมพ์ข้อความหลอกคนจีน
จากกรณีนายหวังซิง หรือซิงซิง นักแสดงชาวจีนที่หายตัวไปหลังเดินทางเข้าประเทศไทย โดย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้นำทีมลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามความคืบหน้าหลังจากที่เขาหายตัวไปตั้งแต่หลังปีใหม่ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา
นายซิงซิง เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 03.00 น. โดยเครื่องบินจากสนามบินผู่ตง ประเทศจีน ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง อ.แม่สอด พร้อมกระเป๋าเป้สะพาย 1 ใบ ซึ่งพบว่าพักในพื้นที่แม่สอดเป็นเวลา 1 วัน ก่อนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ทางด้านแฟนสาวของนักแสดงหนุ่มซิงซิง ชื่อว่า เจียเจีย ได้มีการโพสต์ผ่านเว่ยป๋อ (Weibo) ซึ่งเป็นสังคมออนไลน์จีน ว่าแฟนหนุ่มของเธอหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังเดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เนื่องจากได้รับการเสนอให้มาคัดตัวเป็นนักแสดงในไทย
จากการสืบสวนเบื้องต้น มีพยานและหลักฐานวงจรปิดยืนยันว่านายซิงซิงเดินทางมาคนเดียว และได้ว่าจ้างรถไปส่งในพื้นที่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำคนขับรถ และตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม ด้านแฟนสาวของนายซิงซิงให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่แล้ว และอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม ขณะที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ได้ตรวจสอบข้อมูลไบโอเมตริกซ์และยืนยันการเดินทางเข้าประเทศของนายซิงซิง
ต่อมา พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้พบตัวนายซิงซิงแล้วในพื้นที่แม่สอด และอยู่ระหว่างการรับตัวและตรวจสอบเพิ่มเติม โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างละเอียด เนื่องจากเหตุการณ์มีลักษณะคล้ายกรณีการค้ามนุษย์ แต่การสืบสวน เบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีการบังคับขู่เข็ญหรือการกระทำที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์
ทางด้านนายหวังซิงหรือซิงซิง นักแสดงชาวจีนหลังจากได้รับการช่วยเหลือใน อ.แม่สอด จ.ตาก เปิดเผยว่าเขาตกเป็นเหยื่อของขบวนการหลอกลวง โดยถูกชักชวนให้มาทำงานในประเทศไทยแต่กลับถูกพาข้ามแดนไปยังเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา และถูกบังคับให้ฝึกพิมพ์ข้อความเพื่อใช้หลอกลวงชาวจีนด้วยกัน
ซิงซิง กล่าวว่า ตนถูกหลอกให้มาทำงานที่เมืองไทย แต่พวกเขากลับพาตนข้ามไปฝั่งเมียนมา แล้วบังคับให้ผมฝึกพิมพ์ข้อความหลอกคนอื่น
นอกจากนี้ทางด้าน GMMTV บริษัทบันเทิงชื่อดังของไทยที่ถูกนำชื่อไปแอบอ้าง ได้ออกแถลงการณ์ผ่าน Weibo ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเหตุการณ์นี้ พร้อมชี้แจงว่ากระบวนการคัดเลือกศิลปินของบริษัทมีความโปร่งใส และเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลอันเป็นเท็จ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบเครือข่ายและพฤติการณ์ของกลุ่มขบวนการดังกล่าว เพื่อดำเนินการทางกฎหมายและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีกในอนาคต ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เพื่อให้เกิดความชัดเจนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
