กลายเป็นเรื่องฉาว กต.ตร.เมาแล้วขับ ซิ่งรถยนต์ไฟฟ้า Tesla พุ่งชนรถชาวบ้านเสียหายกว่า 12 คัน ล่าสุด ถูกเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาแล้ว
วันที่ 8 มกราคม 2567 ทีรายงานอุบัติเหตุ รถเก๋ง ยี่ห้อ Tesla ชนวินาศสันตะโร ถนนมิตรภาพ เยื้องศูนย์ขนส่งแห่งที่ 1 หน้าร้านข้าวต้ม อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.30 น. ของวันที่ (6 ม.ค. 67) โดย มี ร.ต.อ.สาลี ดวงอุประ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก รถยนต์เฉี่ยวชนได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบ พบ รถเก๋ง ยี่ห้อเทสล่า หมายเลขทะเบียน พิษณุโลก ขับออกจากบนฟุตบาทแล้ว เชี่ยวชนรถคันอื่น ก่อนไปชนท้ายรถคันอื่นอย่างจังและฟาดไปโดนรถอื่นรวม 6 คันได้รับความเสียหาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และตรวจวัดแอลกอฮอล์แก่ผู้ขับขี่แล้วสูงกว่า 190 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ พร้อมเก็บภาพกล้องวงจรปิด ก่อนเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำ เพื่อรวมรวมหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ จากการตรวจสอบข้อมูลผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าว พบว่า ผู้ที่ก่อเหตุเป็นผู้มีฐานะ และเป็นถึง คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงาน หรือ กต.ตร. สภ.เมืองพิษณุโลกอีกด้วย
- ไวรัล! สุดยอดแม่ครัว ลูกค้าสั่ง ผัดกะเพรา บรีฟแบบไหน ทำให้แบบนั้น
- ภาพไวรัล หนุ่มน้อยตกปลา เบ็ดเกี่ยวขา โร่ให้หมอช่วยพร้อมขอปลาคืน
- แม่แตงโม แฉเบื้องหลัง ‘คดีแตงโม’ ปม ปอ-โรเบิร์ตข่มขืน ยันมีคนแต่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาแล้ว คือ 1. ขับรถโดยประมาท ทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย 2. ขับรถขณะเมาสุรา แม้ว่าผู้ขับขี่เป็น กก.ตร. สภ.เมืองพิษณุโลก ก็ต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งวันนี้ เจ้าหน้าที่ร้อยเวรกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และกำลังรอผลตรวจเลือดยืนยันทางแพทย์อีกครั้ง เบื้องต้น ได้ดำเนินคดีเกี่ยวกับทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายแล้ว ตำรวจยืนยัน ผู้ขับขี่พร้อมเยียวยาค่าเสียหายทุกราย
ทั้งนี้ ตามที่เจ้าหน้าที่ ตั้งข้อกล่าวหา
-หากเป็นการชนกันธรรมดา ไม่มีคนบาดเจ็บหรือคนตาย ผิดฐานขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 400 บาท ถึง 1,000 บาท ตามพระราชบัญญติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 43 (4) และมาตรา 157 นอกจากโทษทางอาญาแล้วก็ยังต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนทางแพ่งให้กับผู้เสียหายด้วย ทั้งนี้ การจะเข้าข่าย “ประมาท” ต้องมิใช่ “เจตนา” ขับรถชนคู่กรณี
-โทษเมาแล้วขับ ตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก ถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ใน 4 กรณี ดังต่อไปนี้ ถือว่าเมาแล้วขับ คือ 1) ผู้ขับขี่ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 2) ผู้ขับขี่ซึ่งได้รับใบอนุญาตขับรถชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ เช่น มือใหม่ใบอนุญาตขับขี่ยังไม่ถึง 2 ปี 3) ผู้ขับขี่ซึ่งมีใบอนุญาตขับขี่สำหรับรถประเภทอื่นที่ใช้แทนกันไม่ได้ 4) ผู้ขับขี่ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรืออยู่ระหว่างถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
-ถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ในกรณีที่บุคคลที่มีใบขับขี่ตลอดชีพหรือใบขับขี่ 5 ปี และมีอายุเกิน 20 ปี ถือว่าเมาแล้วขับ
-หากเป่าแอลกอฮอล์แล้วพบว่า ปริมาณเกินกำหนดทั้ง 2 กรณี จะถือว่าเมาแล้วขับ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 160 ตรี
-สำหรับโทษของการเมาแล้วขับ ไม่ว่าจะเป็นกรณีเป่าแอลกอฮอล์แล้วเกินกำหนดหรือเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 160 ตรี กำหนดให้ผู้ขับขี่ที่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ดังนี้ เมาแล้วขับ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนด ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
