สาวอาข่า ร้องเพจ สายไหมต้องรอด หลังสามีถูกกลุ่ม มาเฟียเมียนมา อุ้มตัวรีดทรัพย์ หายตัวแบบไร้ร่องรอยนานกว่า 3 เดือน ยังไม่รู้ชะตากรรม
ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองและสามี ทำอาชีพทำไร่กาแฟ, ข้าวโพด และพืชตามฤดูกาล ต่อมาเพื่อนของสามีไปกู้เงินกับนายทุนชาวเมียนมาร์ จำนวน 450,00 บาท โดยให้สามีค้ำประกัน ตอนแรกเพื่อนของสามีก็ผ่อนชำระหนี้ให้ตามกำหนด จนกระทั่งงวดล่าสุดได้ผ่อนชำระล่าช้า จึงถูกมาเฟียนายทุนเงินกู้อุ้มหายไป
กระทั่งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 สามีบอกว่าไปทำธุระที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย แล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จึงไปแจ้งตำรวจ สภ. เชียงแสน ตำรวจตรวจสอบภาพวงจรปิดในที่เกิดเหตุ พบว่าสามีถูกอุ้มไปจากร้านเหล้าในอำเภอเชียงแสน ต่อมาวันรุ่งขึ้นคนร้ายก็ได้มานำรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรตั้น สีขาว ของสามีไปด้วย ซึ่งภายหลังพบว่ามีการโพสต์ขายในโซเชียลที่ฝั่งเมียนมา
จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ทราบชะตากรรมสามีว่าเป็นอย่างไร ตนเองรู้สึกเป็นห่วงและกังวลใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังต้องเลี้ยงลูกชายวัย 8 เดือน จึงไม่สามารถทำงานทำการได้ รายได้ไม่มีต้องหวังพึ่งจากญาติพี่น้องให้ช่วยเหลือ
- จุดไปชายแดน ขึ้นป้ายเตือน 3 ภาษา หวังสกัดแก๊งคอล เจอถาม ช่วยได้จริงไหม!?
- รอดหวุดหวิด! ทหารชายแดนตาก ช่วยเหยื่อชาวจีน 2 ราย ก่อนถูกส่งค้ามนุษย์
- ภูมิธรรมฯ เดินหน้า สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน!
ด้านนายเอกภพ เปิดเผยว่า การก่อเหตุลักษณะนี้ที่มีการอุ้มคนไทยออกไปนอกประเทศนั้น เป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งทางตำรวจ สภ. เชียงแสน ก็พยายามดำเนินการจนติดตามคดี จนทราบข้อมูลบางส่วนแล้ว แต่ไม่สามารถดำเนินการต่อได้เพราะผู้เสียหายถูกอุ้มไปนอกราชอาณาจักร จึงอยากประสานไปยังหน่วยงานชายแดนขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ช่วยเหลือติดตามตัวผู้เสียหายให้ด้วย
