หดหู่ใจ! ทหารนายสิบ ลงมือข่มขืนลูกเลี้ยงวัย 14 ปี ตั้งท้อง 22 สัปดาห์ แต่แม่แท้ๆขอไม่เอาความ เพราะ ผู้ก่อเหตุคือเสาหลักของบ้าน
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. ณ สภ.เมืองอุดรธานี ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารบกแห่งหนึ่ง ได้นำตัว ทหารนายสิบ รายหนึ่ง เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสอบปากตำและรับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจาก นายสิบ นั้นได้กระทำชำเรา เด็กอายุ 14 ปี จนตั้งครรภ์ สอบปากโดย พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี และมีผู้บังคับบัญชา 2 นายร่วมรับฟัง ร่วมรับฟังคำให้การของ นายสิบ รายนี้
หลังผ่านการสอบสวนเครียดกว่า 2 ชั่วโมง ก็ได้นำตัวนายสิบไปพิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นปล่อยตัวกลับบ้าน ต่อมา พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้เปิดเผยว่า ภายหลังทราบเรื่อง ตนก็ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดอุดรธานี ผู้อำนวยการสถานศึกษา เข้าสอบถามกับครอบครัวผู้เสียหาย นั้นคือเด็กวัย 14 ปี และแม่ของเด็ก
แม่ไม่เอาผิดเพราะผู้ก่อเหตุคือเสาหลักของบ้าน
จึงทำให้ทราบว่า ทหารนายสิบ นั้นเป็นพ่อเลี้ยงของ เด็ก 14 ปี ซึ่งสิ่งที่น่าสลดใจคือ ทางญาติทั้งแม่ยายและแม่ของเด็กที่เสียหาย ได้ต่อรองไม่อยากเอาความแก่ผู้กระทำผิด โดยให้เหตุผลว่า ผู้ก่อเหตุเป็นครอบครัวเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม่ครอบครัวของเด็กจะไม่อยากเอาความ แต่ทางกฎหมายก็มีการคุ้มครองเด็ก “แม้ผู้ปกครองจะยินยอมผู้ก่อเหตุก็มีความผิด”
ทั้งนี้จากคำให้การของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า วันนั้นแม่ของเด็กไม่อยู่บ้านและเด็กไม่สบาย ตนจึงเข้าไปเช็ดตัวให้ และฉวยโอกาสลงมือ โดยกระทำชำเราไป 1 ครั้ง เหตุเกิดประมาณ 5 เดือนที่แล้ว แต่เรื่องมาแดงเพราะ ครูที่โรงเรียนของเด็กสังเกตว่าเด็กมีความผิดปกติ มีลักษณะท้องโตขึ้น และเวลามารับ-ส่งที่โรงเรียน เด็กและผู้ก่อเหตุมีความใกล้ชิดสนิทสนมมากเกินไป จึงได้พาเด็กไปตรวจและพบว่า ตั้งครรภ์ได้ 22 สัปดาห์แล้ว
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตนซึ่งอยู่ในปกครองของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม แต่ทั้งนี้ ยังไม่ควบคุมตัว ทหารนายสิบผู้ก่อเหตุ เพราะ ผู้บังคับบัญชามองว่าไม่มีพฤติการหลบหนี
