สตม.แถลงข่าวคดี จับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย-ก่อเหตุอันตราย ในประเทศไทย สร้างความเสียหายต่อประเทศ สำคัญ 3 คดี
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 67 ตามนโยบายของ สำนักงานตารวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สานักงานตารวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. ไดสั่งการให้ สตม. สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบ ธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในขณะที่พานักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามา แฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด 3 คดีสำคัญ
คดีแรก ตม.จว.สมุทรปราการจับกุมนายอ่องลี ชาวเมียนมาก่อเหตุฆ่าคู่อริเพื่อนร่วมชาติ โดยจับกุมได้ที่ริมถนนสาธารณะ ซอยสุทธิภิรมย์ ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ โดยสาเหตุมาจากทะเลาะวิวาทและมีปากเสียง ซึ่งหลังก่อเหตุเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ แต่ถูกจับกุมเสียก่อน นำส่งสภ.บางปะกง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่สอง ตม.จว.ชลบุรีจับกุมนายซอย จิน แท อายุ 40 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จึงสืบสวนและจับกุมได้ที่ร้านอาหารเกาหลีในพื้นที่ ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ. ชลบุรี สอบสวน ให้การรับว่าทำหน้าที่จัดหายาไอซ์และเคตามีนในประเทศไทยเพื่อส่งไปยังประเทศเกาหลีใต้ โดยให้ผู้หญิงซุกซ่อนยาเสพติดไว้ตามร่างกาย ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 4 ครั้ง ตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ค. สำหรับมูลค่าของยาเสพติดหากนำเข้าไปจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้ได้จะมีมูลค่าสูงขึ้นมาก โดยยาไอซ์จะมีราคาจำหน่ายกิโลกรัมละประมาณ 13 ล้านบาท ส่วนคีตามีน กิโลกรัมละ 5,200,000 บาท
คดีที่สาม ตม.จว.ชลบุรี จับกุม Mr.adbudjhakim kasanov 29 ปี สัญชาติรัสเซีย พร้อมเงินสกุลยูโรปลอม 6500 ยูโร โดยจับกุมได้ที่โรงแรมในย่านพระตำหนักซอย 6 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมว่ามีชาวต่างชาตินำเงินตราต่างประเทศมาจ่ายค่าที่พัก แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นธนบัตรปลอม เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบก็พบของกลาง สอบสวนรับว่านำธนบัตรยูโรปลอมมาจากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยมีเพื่อนที่ตุรกีให้นำติดตัวมาใช้จ่ายที่ประเทศไทย จึงแจ้งข้อกล่าวหาเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด และทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตราไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกให้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นผู้นั้นกระทำผิด,ฐานปลอมเงินตรา และ มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งเงินตราต่างประเทศสกุล (ยูโร) อันตน ได้มาโดยรู้ว่าเป็นเงินตราเป็นของปลอม นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทาความผดิ ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทาความผิด กรุณาแจ้งมายัง สานักงานตรวจคนเข้ าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
